นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบจำกัด เพื่อรอปัจจัยชี้นำใหม่เข้ามา ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้ดี จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯที่ออกมาดี และตลาดในยุโรปก็บวกได้เล็กน้อย ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก โดยวันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ
นอกจากนี้ ยังต้องรอดูการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ในสัปดาห์นี้ด้วย และพรุ่งนี้ให้ติดตามเรื่องมาตรการฐานการบัญชี IFRS9 จะเลื่อนใช้หรือไม่ อีกทั้งยังต้องจับตาสงครามการค้า โดยรอดูจีนจะมีการตอบโต้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาดี โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกที่ออกมาดีมาก จากการเร่งสั่งซื้อสินค้าก่อนที่จะมีการปรับขึ้นภาษี
พร้อมให้แนวรับ 1,630-1,635 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 ถัดไป 1,660-1,665 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 ก.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,019.41 จุด เพิ่มขึ้น 94.52 จุด (+0.38%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,801.31 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด (+0.11%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,825.98 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด (+0.03%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 55.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 3.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.36 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.48 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.72 จุด
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ (16 ก.ค.) เนื่องในวันแห่งทะเล
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ก.ค.61) 1,643.52 จุด เพิ่มขึ้น 2.59 จุด (+0.16%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 343.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ก.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 ก.ค.61) ปิดที่ 71.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ก.ค.61) ที่ 5.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.29 แข็งค่าหลังมีแรงขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 33.25-33.35 ตลาดรอปัจจัยใหม่
- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ลุ้นการประชุม คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) 17 ก.ค.นี้ จะชะลอการเคาะกำหนดวันบังคับใช้มาตรฐานการบัญชี TFRS9 ออกไปก่อนหลังทำหนังสือขอให้รอผลการศึกษาจาก ม.หอการค้าไทยที่ กกร.ว่าจ้างล่าสุดศึกษาผลกระทบภาพรวมให้ครอบคลุมซึ่งจะแล้วเสร็จธ.ค.นี้ วงในเผยแนวโน้มส่อบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 63 ขณะที่ "กกร." เสนอบังคับเป็น 1 ม.ค.65
- จากการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศเชิญชวนและรับคำขอผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ และประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อวันที่ 9-13 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่มีโอเปอเรเตอร์รายใดรับคำขอเข้าร่วมประมูล
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยทิศทางผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2 ที่จะทยอยประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ต้องติดตามธนาคารใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านโมบาย แบงก์กิ้งเป็นศูนย์ แม้ว่าจะพยายามเร่งค่าธรรมเนียมอื่นมาชดเชย เช่น การขายประกันและกองทุนรวม แต่ผลประกอบการเทียบกับไตรมาสแรกลดลงชัดเจน
- การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แจ้งความคืบหน้าโครงการ ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 กรุงเทพฯ-โคราช ระยะทาง 252.35 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 1.79 แสนล้านบาทว่า รฟท.กำหนดแผนเปิดประมูลงานก่อสร้างตอนที่ 3 ต่อจากตอนที่ 2 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตรแล้ว โดยจะสร้างในส่วนที่เป็นอุโมงค์ทางวิ่งผ่านภูเขา บริเวณลำตะคอง มาประมูลก่อน
*หุ้นเด่นวันนี้
- PSL (ไอร่า) เป้า 18 บาท ดัชนีค่าระวางเรือ (BADI) ล่าสุด 1,612 จุด เพิ่มต่อเนื่อง และ YTD เป็นระดับสูงสุด แนวโน้ม Q2/61 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ Q1/61 ที่มีกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท จากภาคอุตสาหกรรมหนักของจีนที่กลับมาผลิตเป็นปกติ (ช่วงฤดูหนาวถูกปิดบางส่วนจากปัญหาหมอกควัน) โดยล่าสุดค่าเฉลี่ย QTD ของค่าระวางเรือ Handysize และ Supramax ซึ่งเป็นขนาดเรือของ PSL เพิ่มขึ้น 5.3% และ 10.4% QoQ ตามลำดับ ส่วนระยะกลาง มุมมองด้าน Demand - Supply เข้าสู่สมดุลขึ้นเป็นลำดับ สอดคล้องกับการประเมินของสำนักต่างๆ ที่คาด Supply เรือเทกอง เพิ่มขึ้นเพียงราว 1-2% ในปี 61-62
- ANAN (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 6.7 บาท ได้ Sentiment บวกจากแนวโน้มยอดขายและรายได้ใน Q2/61 น่าจะออกมาดีกว่าที่บริษัทและตลาดเคยคาดไว้ หลังจากโครงการ IDEO Rama 9 - Asoke มีการตอบรับดีเกินคาดจากผู้ซื้อ ขณะที่โครงการ Aston Asoke เริ่มโอนได้เร็วกว่าแผน (จากโอน Q4/61 เป็น Q2/61)
- BKD (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 4.50 บาท หลังจากหันมาโฟกัสงานตกแต่งภายในที่ตัวเองถนัด จนดัน Backlog ทำยอดสูงสุดตั้งแต่เปิดบริษัทที่ 2 พันลบ. ทำให้คาดกำไรปกติปีนี้จะพุ่งแรง 320% Y-Yอยู่ที่ 172 ลบ. ส่วน Q2/61 คาดทำได้ 30 ลบ. พลิกจากขาดทุนปกติ 28 ลบ. ใน Q2/60 นอกจากนี้ Downside จำกัด เพราะมีธุรกิจน้ำและที่ดินรวมกันคิดเป็น 1.80 บาท/หุ้น และเมื่อคิดเป็น PE2561-62 ที่ 16-20 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 25 เท่า อีกทั้งราคาตอนนี้ยังต่ำกว่าต้นทุน PP ของ BTS ที่ 3.30 บาทด้วย