นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) กล่าวถึงภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลังว่าจะมีการเติบโตที่ดีขึ้น จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเดินหน้าได้ตามแผนส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของภาคเอกชนและการตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ตามแนวโครงการรถไฟฟ้า รวมถึงบรรยากาศการเลือกซื้อสินค้าจะมีความคึกคักมากขึ้น
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีของ DRT ในการรุกทำตลาดเพื่อผลักดันยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มระบบหลังคาซึ่งเป็นพอร์ตรายได้หลักที่มีความพร้อมในด้านการผลิตและการขยายตลาดเพิ่มเติมไปยังกลุ่มลูกค้าโครงการ รวมถึงสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์และอิฐมวลเบาที่คาดว่าจะมีความต้องการใช้สินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่ออัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยโดยรวมของ DRT ในปีนี้ที่จะอยู่ในระดับ 80%
"ในครึ่งปีหลังเราจะมุ่งทำตลาดกลุ่มสินค้าระบบหลังคามากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่เรามีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว เนื่องจากมีความพร้อมทั้งในด้านการผลิตรวมถึงความเชี่ยวชาญของทีมช่างที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนผลักดันการเติบโต จึงเชื่อมั่นว่า ด้วยแผนการดำเนินงานของเราจะส่งผลให้ทำยอดขายเติบโต 5% ในปีนี้ได้ตามเป้าหมาย" นายสาธิต กล่าว
สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 ที่ผ่านมา นายสาธิต กล่าวว่า เชื่อว่าจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ จะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ต้องการผลักดันยอดขายเติบโต 5% และรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25-27% แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาสัญญาณต้นทุนวัตถุดิบบางรายการมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดแข็งในการดำเนินธุรกิจของ DRT หรือ ‘ตราเพชร’ ที่มีผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย รวมถึงการบริหารพอร์ตสินค้า (Product Mix) ในกลุ่มวัสดุก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสินค้าในกลุ่มระบบหลังคา (Roofing Solution) ที่มีครบครัน ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ หลังคาคอนกรีต หลังคาเหล็กเคลือบหินภูเขาไฟ โครงและอุปกรณ์ประกอบหลังคา ตลอดจนสินค้าในกลุ่มฝ้า ผนังและพื้น อาทิ ผลิตภัณฑ์กลุ่มไม้สังเคราะห์ อิฐมวลเบา ไดมอนด์บอร์ด ฯลฯ บริษัทฯ จึงสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี รวมถึงมีการบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโครงการและร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายที่มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น
"เราเชื่อว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งค่อนข้างน่าพอใจเมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างที่เติบโตเล็กน้อย เนื่องจากเรามุ่งเน้นการบริหารจัดการพอร์ตสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายของเราที่มีความหลากหลาย ทำให้เราสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผลักดันเป้าหมายยอดขายเติบโตได้ตามแผนงาน" นายสาธิต กล่าว