นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (แอล เอช ฟันด์) เปิดตัวกองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล อิควิตี้ หรือ LH GLOBAL EQUITY FUND มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ 16-24 ก.ค.61 เพื่อรับโอกาสดีในการกระจายการลงทุนในตลาดหุ้นชั้นนำทั่วโลก
ทั้งนี้ กองทุน LH GLOBAL EQUITY FUND (LHGEQ) เป็นกองทุนประเภท Feeder Fund ที่จะเข้าลงทุนใน T. Rowe Price Funds SICAV-Global Focused Growth Equity Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กำหนดเงินลงทุนครั้งแรกและครั้งถัดไปขั้นต่ำ 5,000 บาท และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 12 ครั้ง สำหรับหน่วยลงทุนชนิดจ่ายเงินปันผล โดยกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
กองทุนหลักบริหารมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เงินลงทุนมีการเติบโตของเงินทุนระยะยาว โดยกองทุนรวมลงทุนในหุ้นที่หลากหลายซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตของรายได้ที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยและมีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้กลยุทธ์ แบบ Bottom-up Approach ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหุ้นรายบริษัท โดยไม่จำกัดประเทศ หรือกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงมีการลงทุนในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) โดยมีผู้จัดการกองทุนที่ได้รางวัล Citywire ในระดับ AAA เป็นผู้บริหารกองทุน ซึ่งในปัจจุบันกองทุนได้ให้น้ำหนักการลงทุนส่วนใหญ่ไปยังกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร กลุ่มการแพทย์ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มสาธารณูปโภค เป็นต้น กองทุนหลักบริหารมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เงินลงทุนมีการเติบโตของเงินทุนระยะยาว
โดยกองทุนรวมลงทุนในหุ้นที่หลากหลายซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตของรายได้ที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยและมีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้กลยุทธ์ แบบ Bottom-up Approach ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหุ้นรายบริษัท โดยไม่จำกัดประเทศ หรือกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงมีการลงทุนในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) โดยมีผู้จัดการกองทุนที่ได้รางวัล Citywire ในระดับ AAA เป็นผู้บริหารกองทุน ซึ่งในปัจจุบันกองทุนได้ให้น้ำหนักการลงทุนส่วนใหญ่ไปยังกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร กลุ่มการแพทย์ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มสาธารณูปโภค เป็นต้น
นายมนรัฐ กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังดีอยู่อย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจโลกล่าสุดสะท้อนถึงภาพรวมการเติบโตที่ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในปี 61-62 จากการคาดการณ์ของ IMF นั้น GDP โลกปี 61-62 จะเติบโตที่ 3.9% YoY จากการเติบโตทางสหรัฐและยุโรป
ในไตรมาส 2/61 ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าในไตรมาสแรกที่ระดับ 3.7% QoQ รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งขึ้นจากการแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยฯ ขาขึ้น และตัวเลขเงินเฟ้อเติบโตที่แข็งแกร่ง ทำให้ปริมาณเงินไหลออกจาก กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) กลับไปสู่หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว เช่น US Stock และ US Dollar นอกจากนี้ Global PMI ในเดือน พ.ค.ล่าสุดอยู่ที่ 53.1 จุด โดยระดับที่สูงกว่า 50 จุด แสดงถึงเศรษฐกิจโลกยังมีการเติบโตที่ดี