หุ้น KTC ราคาพุ่งขึ้น 20.13% มาอยู่ที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.65 บาท มูลค่าซื้อขาย 544.13 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.00 น. โดยเปิดตลาดที่ 27.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 28.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 26.00 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ราคาหุ้น บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ที่ปรับลงแรงไม่สอดคล้องกับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ถือเป็นโอกาส"ซื้อ"(จากเดิมแนะนำ"ขาย") โดยคงราคาเหมาะสมที่ 32.40 บาท
KTC กำไร Q2/61 ดีกว่าคาดที่ 1.3 พันลบ. +8% Q-Q, +66% Y-Y เนื่องจากการรายได้ดอกเบี้ยที่ดีกว่าคาด และหนี้สูญรับคืนที่สูงกว่าคาดการณ์ไว้ สินเชื่อฟื้นตัวขึ้น 2.7%Q-Q ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อบุคคล ขณะที่ NPL ลดลงมาอยู่ที่ 1.27% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงทั้งจากสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล กำไร H1/61 +66% Y-Y และคิดเป็น 54% ของประมาณการทั้งปีที่ 4.6 พันลบ. +40% Y-Y โดยยังคงประมาณการเดิมไว้ก่อน
เพิ่มน้ำหนักการลงทุน "ซื้อ" ที่ราคาเหมาะสมใหม่ 27 บาท
ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มองว่า ราคาหุ้น KTC ที่ปรับตัวลงมานั้นเกิดการความกังวลในด้านผลประกอบที่จะอ่อนลง และการขยายตัวของกำไรสุทธิในระยะยาวที่น้อยลงกว่าอดีต ตามแนวโน้มรายได้หนี้สูญรับคืนที่อาจมีแนวโน้มลดลงในระยะยาว และ PPOP มีอัตราการขยายตัวที่อ่อนตัว โดยคิดเป็นอัตราการขยายตัวของกำไรสุทธิปี 2018-20 ที่ CAGR 6%
แต่จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามปัจจัยต่างๆ เช่น Cashless Society, การใช้จ่ายผ่าน QR Code และคุณภาพสินเชื่อที่อยู่ในระดับต่ำ กอปรกับราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมามากวานนี้ จึงเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 27.00 บาท (อิง PBV 4.1x เทียบเท่า 3Yr Avg. PBV +1.5SD หรือ 2018 PER ที่ 14.4x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 18.4x) จากเดิม 36.00 บาท (อิง PBV 6.0x)