ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,621.61 จุด ลดลง 6.08 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 24,147.81 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,629.18 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,616.59 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงรับแรงขายหุ้นบิ๊กแคป นำโดยกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับลงมาก อย่างหุ้น PTTEP ที่รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันร่วงแล้วยังมีประเด็นลบจากขาย"มอนทารา" ส่วนหุ้น AOT ก็มีแรงขายเข้ามาค่อนข้างมากเช่นกัน
ขณะที่กลุ่มแบงก์กังวลเรื่องมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 จะเลื่อนหรือไม่เลื่อนการบังคับใช้ ซึ่งมีผลต่อ Sentiment มาก แม้เชื่อว่าธนาคารต่างเตรียมความพร้อมไว้ประมาณหนึ่งแล้ว มีเพียง KTB และ SCB ที่ตั้งสำรองฯยังน้อยอยู่ ดังนั้นหากผลออกมาเลื่อนไป 3 ปีก็จะเป็นผลดี แต่ถ้าเลื่อนแค่ 1 ปีคงไม่มีผลนักมาก
ทั้งนี้ ตลาดโดยรวมยังมีความผันผวนในขาลง เพราะความวิตกสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ดังนั้นนักลงทุนจีงไม่ต้องรีบเข้าซื้อ และให้หาจังหวะขายหากราคาหุ้นปรับตัวขึ้น
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดย Emerging Market ติดลบมากกว่า เพราะมีปัจจัยกดดันจากสงครามการค้า ซึ่งหาก GDP ของจีนได้รับผลกระทบก็จะทำให้ Emerging Market ได้รับผลกระทบตามไปด้วย และคาดว่าเงินทุนจะไหลออก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯ ยังมีลุ้นรีบาวด์ได้แต่คงไปได้ไม่ไกล เพราะยังมีกลุ่มพลังงานถ่วง พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,808.33 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 2.75 บาท
KTC มูลค่าการซื้อขาย 2,105.37 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.65 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,734.70 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,708.12 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
TISCO มูลค่าการซื้อขาย 1,155.74 ล้านบาท ปิดที่ 73.75 บาท ลดลง 0.50 บาท