นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) วางแผนขยายการเติบโตธุรกิจนอนออยล์และธุรกิจต่างประเทศ จากปัจจุบันที่มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในแต่ละปี หลังมีนโยบายที่จะขยายธุรกิจไปพร้อมกับชุมชนและกลุ่มเอสเอ็มอี โดยเตรียมนำเสนอแผนธุรกิจ 5 ปี (ปี 61-65) ของ PTTOR เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ PTTOR ในเดือน ส.ค.นี้
ปีที่ผ่านมาธุรกิจน้ำมันของ ปตท.มี EBITDA ประมาณ 1.96 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนนี้ราว 80% มาจากธุรกิจน้ำมันในประเทศ ส่วนอีก 20% มาจากธุรกิจนอนออยล์และต่างประเทศ โดยธุรกิจต่างประเทศจะรวมยอดขายน้ำมันต่างประเทศ,ร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน และการขายน้ำมันหล่อลื่นต่างประเทศ ซึ่งยังมีโอกาสขยายงานได้อีกมาก
ขณะที่ธุรกิจนอนออยล์ จะรวมถึงธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดในสถานีบริการน้ำมันด้วย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการนำเสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการ ปตท. หรือคณะกรรมการ PTTOR ต่อไป
"EBITDA ของธุรกิจน้ำมันภาพรวมประมาณ 80% มาจากธุรกิจน้ำมันในประเทศ ซึ่งจะเอากำไรส่วนนั้นมาต่อยอดนอนออยล์และธุรกิจต่างประเทศ หลักใหญ่จะเติบโตด้วยอัตราที่มากกว่าปกติก็ต้องเป็นตัวนอนออยล์และต่างประเทศ"นายอรรถพล กล่าว
นายอรรถพล กล่าวว่า การที่ปตท.โอนสินทรัพย์ธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกให้กับ PTTOR ก็จะกลายเป็นผู้ค้าน้ำมันรายหนึ่งที่มาทดแทน ปตท.แต่จะเป็นผลดีต่อ ปตท.ที่จะเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารและขยายงานภายใต้นโยบายเดิมที่จะเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มเอสเอ็มอี โดยสถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่ราว 80% และร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ที่มีราว 90% ของกลุ่ม ปตท.นั้นเป็นธุรกิจของเอสเอ็มอี ซึ่งจะทำให้ PTTOR ขยายงานและเติบโตได้รวดเร็วและแตกต่างจากคู่แข่ง ขณะที่เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพก็พร้อมที่จะชวนออกไปขยายฐานในต่างประเทศด้วย
ล่าสุดวันนี้ปตท.เปิด Cafe Amazon for Chance ร้านกาแฟแห่งแรกที่ดำเนินการโดยผู้พิการด้านการได้ยิน สาขาสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จ.นครปฐม เพื่อเปิดโอกาสในการพัฒนาความสามารถ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้พิการทางการได้ยินที่จบการศึกษาจากวิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ ปตท. กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. ตระหนักถึงพลังของการดำเนินงานธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่นำจุดแข็งของธุรกิจมาช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ปัญหาและพัฒนาสังคมได้อย่างยั่งยืน จึงได้จัดตั้ง บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ขึ้นเพื่อดำเนินงานทางด้านวิสาหกิจเพื่อสังคมให้กับ กลุ่ม ปตท. โดยมุ่งเน้นพัฒนาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ให้เป็นสังคมแห่งการเกื้อกูล เป็นสังคมแห่งความสุขร่วมกัน
โดย Cafe Amazon for Chance เป็นอีกหนึ่งในโครงการวิสาหกิจชุมชนที่ได้นำความสำเร็จของธุรกิจคาเฟ่ อเมซอนมาสร้างคุณค่าให้สังคม ด้วยการพัฒนาทักษะการทำงานให้แก่ผู้พิการทางการได้ยิน ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้พิการที่มีมากเป็นอันดับ 2 รองจากผู้พิการทางร่างกาย และมักได้รับการจ้างงานต่ำกว่าวุฒิการศึกษา รวมทั้งไม่มีการอบรมพัฒนาความสามารถในสายอาชีพนี้อีกด้วย
ปัจจุบันร้านคาเฟ่ อเมซอนที่ดำเนินการโดยผู้พิการทางการได้ยินมีอยู่ 2 สาขา ณ สำนักงานอธิการบดี และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยจะขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาบ้านเจ้าพระยา สาขาโรงพยาบาลแหลมฉบัง สาขากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายในสิ้นปี 61 ซึ่งกำไรจากร้านคาเฟ่ อเมซอนที่ดำเนินงานโดยผู้พิการทางการได้ยิน จะนำไปเป็นกองทุนในการพัฒนาอบรมและฝึกอาชีพให้แก่ผู้พิการต่อไป
นายเทวินทร์ กล่าวว่า ปตท.มีพนักงานราว 5,000 คน ซึ่งตามกฎหมายจะต้องจ้างพนักงานที่มีความพิการราว 1% หรือ 50 คน ซึ่งปัจจุบันมีการจ้างพนักงานที่มีความพิการแล้วใกล้ระดับ 50 คน และพร้อมที่จะส่งเสริมให้องค์กรหรือสมาคมต่างๆเพื่อสาธารณกุศลที่ต้องขอความช่วยเหลือด้านเงินบริจาคสามารถสร้างรายได้ด้วยตัวเอง โดยการเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน ด้วยตัวเองเพื่อสร้างรายได้กลับเข้าสมาคมหรือองค์กรนั้นๆต่อไป