นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต (TBANK) ในกลุ่มบมจ.ทุนธนชาต (TCAP) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 ของธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นถึง 14 ไตรมาสติดต่อกัน โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 3,821 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.11% จากไตรมาสก่อน หรือเพิ่มขึ้น 14.71% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเอสเอ็มอี
การเติบโตของสินเชื่อดังกล่าวนำมาซึ่งการขยายตัวของฐานรายได้รวม ในขณะเดียวกันธนาคารและบริษัทย่อยยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานปรับตัวลดลง (Cost to Income Ratio อยู่ที่ 45.67%)และค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองอยู่ในระดับต่ำ (Credit Cost อยู่ที่ 0.70%) ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับต่ำที่ 2.25% ในขณะที่เงินกองทุนยังอยู่ในระดับสูงที่ 18.83%
"การดำเนินกลยุทธ์ต่างๆของธนชาต เรายึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในเรื่องระบบ IT การพัฒนาบุคลากร การปรับโฉมการบริการด้านสาขา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม สร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าในการรับบริการด้านการเงินจากธนชาต ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจหลักของเราเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จึงทำให้เราสามารถสร้างความสำเร็จได้ต่อเนื่อง ซึ่งเราก็จะไม่หยุดพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ทำให้ธนาคารเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต"นายสมเจตน์ กล่าว