หุ้น MK ราคาพุ่งขึ้น 12.44% มาอยู่ที่ 4.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.52 บาท มูลค่าซื้อขาย 189.47 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.23 น. โดยเปิดตลาดที่ 4.24 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 4.76 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 4.24 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ห้นบมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) มีโอกาสจะถูกเก็งกำไรในระยะนี้จากประเด็น ที่บมจ.ศุภาลัย (SPALI) อาจปรับเพิ่มราคาเทนเดอร์ฯ สูงกว่าที่ประกาศไว้ระดับ 4.10 บาท/หุ้น หากต้องการหุ้น MK เพื่อจูงใจให้ผู้ถือหุ้นมาทำเทนเดอร์ฯ ขณะที่กลุ่มบมจ.ฟินันซ่า (FNS) ที่ถือหุ้นอยู่ประมาณ 30-35% ยืนยันไม่ขายหุ้น
นอกจากนี้ยังคาดว่าหาก MK จ้างที่ปรึกษาทางการเงินมาให้ความเห็นว่าผู้ถือหุ้นควรจะทำเทนเดอร์ฯ หรือไม่นั้น ก็มองว่ามีโอกาสที่ที่ปรึกษาทางการเงินจะแนะนำไม่ให้ทำเทนเดอร์ฯ เพราะราคาเทนเดอร์ฯปัจจุบันที่ 4.10 บาท/หุ้น ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 6.66 บาท ถึง 38% และเมื่อเปิดเผยมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมในการประเมินสูงกว่าราคาเทนเดอร์ฯมาก ก็คาดว่าจะมีการเก็งกำไร MK
ขณะที่ในความเป็นจริงราคาหุ้น MK ปัจจุบันยังไม่ได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง คือ ยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีมาก เพราะยังใช้ราคาต้นทุนที่ดินในอดีต แต่จากที่ดินในมือ MK ประมาณ 1.1 พันไร่นั้น บางแปลงสูงกว่าต้นทุน 3-5 เท่า ซึ่งส่วนใหญ่ที่ดินมีทำเลที่ดีคือ ปทุมธานี 400 ไร่ และที่ดินใกล้สุวรรณภูมิอีก 700 ไร่ เป็นต้น
ดังนั้น จึงคาดว่าระยะนี้จะมีการเก็งกำไรหุ้น MK เพราะหากยึดตามมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น ก็สูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน แต่ในแง่ P/E ไม่ถึงกับถูกนัก Trailing P/E ใช้กำไร 4 ไตรมาสย้อนหลังเป็น 16.5 เท่า นั่นคือ MK มีจุดเด่นด้านสินทรัพย์ที่มีค่า แต่ในแง่การทำกำไรยังไม่เด่นนัก