นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยทบทวนเรื่องแผนงานและรูปแบบสาขาเป็นระยะ ๆ เนื่องจากพฤติกรรมการใช้บริการทางการเงินของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงไปใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นเรื่อย ๆ และจำนวนการใช้บริการผ่านช่องทางสาขาแบบเดิมมีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคต ดังนั้น จำนวนรวมสาขาของธนาคารอาจจะลดลงบ้าง จากการควบรวมสาขาบางแห่งที่มีลูกค้าใช้บริการน้อยหรืออยู่ใกล้กับสาขาหลัก แล้วไปเน้นพัฒนาช่องทางบริการอื่นที่สะดวกสำหรับลูกค้ามากกว่า รวมทั้งจะหันไปเปิดสาขาในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากสาขารูปแบบเดิม ๆ ในทำเลที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ได้เลือกรูปแบบสาขาแนวคิดใหม่แล้ว ต่อไปธนาคารจะมีสาขา 3-4 รูปแบบเพื่อรองรับการให้บริการของลูกค้าของธนาคารในแต่ละไลฟ์สไตล์ โดยสาขารูปแบบใหม่จะเริ่มทยอยเปิดดำเนินการได้ภายในปีนี้
จากการที่จำนวนสาขาโดยรวมมีแนวโน้มที่อาจจะลดลงนั้น ธนาคารกสิกรไทยจะเน้นพัฒนาช่องทางบริการที่ลูกค้าจะได้รับความสะดวกมากขึ้น เช่น K PLUS ที่สามารถให้บริการทางการเงินที่สำคัญได้เหมือนการใช้บริการที่สาขา แต่ลูกค้าจะสะดวกกว่า
ในขณะเดียวกัน ธนาคารกสิกรไทยได้ยื่นแผนยุทธศาสตร์การจัดตั้งผู้ให้บริการธนาคารพาณิชย์ หรือตัวแทนธนาคาร (แบงกิ้งเอเย่นต์) ซึ่งผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารแก่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือรายละเอียดของการทำธุรกรรมการเงินผ่านแบงกิ้งเอเย่นต์แต่ละราย ว่าจะสามารถร่วมมือกันให้บริการอะไรได้บ้าง เช่น บริษัท ไปรษณีย์ไทย รวมถึงนิติบุคคลรายอื่น ๆ อีก 5-6 ราย ที่ยังอยู่ในช่วงการหารือเรื่องรูปแบบ ระบบ และประเภทธุรกรรมในการให้บริการร่วมกัน ซึ่งในอนาคตจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้าที่จะใช้บริการทางการเงินของธนาคารกสิกรไทยที่สะดวกที่สุดได้