นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมวงเงินลงทุน 3-4 หมื่นล้านบาทในช่วง 5 ปี เพื่อรองรับการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รวม 5,000 เมกะวัตต์ และการเข้าซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท ,เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) โดยปัจจุบันยังไม่มีแผนจะออกหุ้นกู้เพื่อมารองรับการลงทุน
ทั้งนี้ ตามแผนการดำเนินธุรกิจที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มขึ้นนั้น จะมีส่วนผลักดันรายได้ของบริษัทในช่วง 8 ปี ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 61 เติบโตเฉลี่ยปีละ 30% โดยปีนี้คาดว่ารายได้จะอยู่กว่า 1 หมื่นล้านบาท และสิ้นปีที่ 8 รายได้จะปรับขึ้นมาเป็นกว่า 2 แสนล้านบาท โดยคาดว่ารายได้จากต่างประเทศจะปรับขึ้นมาเป็น 20-30% ในระยะกลาง จากปัจจุบันรายได้หลักมาจากในประเทศ ราว 90%
ส่วนความคืบหน้าการเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ประเทศโอมาน ขนาดกำลังผลิต 300 เมกะวัตต์ (MW) นั้น คาดว่าจะรู้ผลในเดือนส.ค.นี้ หากบริษัทได้รับคัดเลือกคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 5-6 พันล้านบาทในการเข้าร่วมลงทุนกับกลุ่มโอมานแก๊ส ในสัดส่วนฝ่ายละ 50% นอกจากนี้บริษัทมองเข้าลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธุรกิจก๊าซฯ เพราะในโอมานมีแหล่งก๊าซธรรมชาติอยู่มาก
ด้านการเจรจาร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงงานแสงอาทิตย์ (SOLAR) และพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม กำลังผลิตประมาณ 300-400 เมกะวัตต์ คาดว่าภายในปีนี้จะสรุปข้อตกลงได้อย่างน้อย 1 โครงการ ซึ่งจะร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น ส่วนการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ในนิคมอุตสาหกรรมในไทย จำนวน 3 แห่ง กำลังผลิตแห่งละ 120 เมกะวัตต์นั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้
"คาดว่าใน 8 ปีนี้รายได้โตเฉลี่ยปีละ 30% ต่อเนื่อง เราเน้นเป็นหุ้น Dividend นอกจากเป็นหุ้น Growth ต้นทุนการเงินเราจัดการได้เราทำมา 20 ปีมาแล้ว"นายสารัชถ์ กล่าว