นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) กล่าวว่า ในไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 2,026 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 13.0% และลดลง 11.1% จากไตรมาส 1/61 ขณะที่งวด 6 เดือนปี 61 มีกำไรสุทธิ 4,306 ล้านบาท ลดลง 2.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยรายได้ในไตรมาส 2/2561 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเป็นจานวน 6,100 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1.2% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่ลดลง 1.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สำหรับรอบ 6 เดือนปี 61 ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 12,130 ล้านบาท ลดลง 1.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นจากการเติบโตของเงินฝาก เพื่อออม (non-transactional deposit)
กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ (PPOP) อยู่ที่จำนวน 4,871 ล้านบาทใน ไตรมาส 2/61 ลดลง 4.7% QoQ และ 5.1% YoY เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับ PPOP ในรอบ 6 เดือนแรกปี 61 อยู่ที่จำนวน 9,980 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.8% YoY
ธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบและตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 2,380 ล้านบาทในไตรมาส 2/61 เพิ่มขึ้น 3.3% QoQ และ 4.3% YoY สำหรับรอบ 6 เดือนแรกปี 61 ธนาคารตั้งเพิ่มขึ้นสารองฯ อยู่ที่จำนวน 4,685 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.6% YoY เทียบกับ 4,523 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันปีก่อน การตั้งสำรองฯ สูงขึ้นเพื่อคงอัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือ Coverage ratio ตามเป้าหมายและรองรับการ write-off สินเชื่อด้อยคุณภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนสารองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 มิ.ย 61 ยังคงสูงที่ 140%
นายปิติ กล่าวว่า ทีเอ็มบี มุ่งขยายฐานลูกค้าและธุรกิจผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการภายใต้แนวคิด "ได้มากกว่า" หรือ "Get More With TMB" เมื่อใช้ทีเอ็มบีเป็นธนาคารหลัก (Main Bank) เป็นประจำ พร้อมทั้งมุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการใช้บริการธนาคารที่ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัลสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นได้จากจำนวนลูกค้ารายย่อยที่ใช้ทีเอ็มบีเป็นประจำ (Active Customer) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 2.5 ล้านราย ขณะที่ Active Digital Customer เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1 ล้านราย"
ใน 6 เดือนแรกของปี ทีเอ็มบีขยายฐานเงินฝากเพิ่มขึ้น 3% มาอยู่ที่ 6.32 แสนล้านบาท ตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเงินฝากลูกค้ารายย่อย ผ่านผลิตภัณฑ์หลักอย่าง เงินฝาก "ทีเอ็มบี โน-ฟิกซ์" (TMB No-Fixed) และ "ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี" (TMB All Free) ซึ่งลูกค้าจะได้สิทธิประโยชน์สูงสุดเมื่อทำธุรกรรมผ่านบัญชี All Free คู่กับการออมเงินผ่านบัญชี No-Fixed เป็นการเน้นย้ำแนวคิด "Get More with TMB" จึงทำให้เงินฝาก No-Fixed เพิ่มขึ้น 12% หรือ 2.7 หมื่นล้านบาท และ "ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี" (TMB All Free) เติบโต 3% หรือ 1.7 พันล้านบาท ในส่วนของเงินฝาก ME ซึ่งเป็นเงินฝากแบบดิจิทัล เติบโตได้ดีเช่นกันที่ 9% หรือ 3.9 พันล้านบาท
ในส่วนของสินเชื่อ ทีเอ็มบีขยายสินเชื่อคุณภาพ (Performing loan) ได้ 2% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 6.36 แสนล้านบาท เป็นการเติบโตจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก โดยเฉพาะจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น 9% หรือ 1.2 หมื่นล้านบาท ในส่วนของสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ พบว่าสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงเติบโตได้ดีที่ 3% หรือ 7.7 พันล้านบาท สำหรับสินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็กฟื้นตัวต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากธนาคารยังคงเน้นความรอบคอบในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ใน 6 เดือนแรกของปี สินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็กขยายตัวได้ที่ 0.2%
ด้านสถานะเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR) และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ภายใต้เกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 17.3% และ 13.3% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 10.375% และ 7.875% ตามลำดับ