ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,665.02 จุด เพิ่มขึ้น 18.13 จุด (+1.10%) มูลค่าการซื้อขาย 31,139.87 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,667.34 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,648.44 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค ปัจจัยหลักมาจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มแบงก์ หลังผลประกอบการไตรมาส 2/61 ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้ประเมินกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไว้ว่า ผลประกอบการที่ออกมาดีส่วนใหญ่มาจากกำไรในส่วนอื่น เช่น กำไรจากการเงินลงทุน กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (FX) และเงินปันผลรับ ซึ่งไม่ได้ส่งผลให้มีการปรับประมาณการของกลุ่มขึ้น แต่กลับมีการปรับประมาณการลงในหุ้นบางตัว อย่าง SCB และ TMB จากแนวโน้มค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่น่าจะอยู่ในระดับสูงต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตามผลประกอบการกลุ่มแบงก์ที่ออกมานั้น ยังไม่เห็นภาพที่จะทำให้ประมาณการ EPS ของตลาดถูกปรับขึ้น ซึ่งราคาหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่ปรับขึ้นในครั้งนี้น่าจะเป็นผลกระทบเชิงบวกในระยะสั้น ๆ เท่านั้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ดัชนีฯคงจะปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด หลังจากที่ช่วงเช้าได้ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างแรง พร้อมให้แนวต้าน 1,670 จุด ส่วนแนวรับ 1,645 จุด
นอกจากนี้ แนะนักลงทุนจับตาดูทิศทางค่าเงินบาท หลังจากที่ค่าเงินบาทได้ปรับตัวอ่อนค่าทำจุดต่ำสุดใหม่ หรืออ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือน แตะระดับ 33.50 บาทจ่อดอลลาร์สหรัฐ ตามค่าเงินหยวน หลังจีนประกาศให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง และติดตามทิศทางราคาน้ำมัน ซึ่งเริ่มเห็นการอ่อนตัวลงมา จากค่าเงินดอลลาร์หสรัฐแข็งค่าต่อเนื่อง และสหรัฐฯได้มีการรายงานสต็อกน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,410.33 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,086.42 ล้านบาท ปิดที่ 207.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,695.47 ล้านบาท ปิดที่ 195.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,281.50 ล้านบาท ปิดที่ 2.26 บาท ลดลง 0.12 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,218.01 ล้านบาท ปิดที่ 74.75 บาท ลดลง 0.75 บาท