สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (16 - 20 กรกฎาคม 2561) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 402,104.84 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 80,420.97 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 36% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภท ของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 79% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 317,186 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 55,755 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 8,001 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB366A (อายุ 17.9 ปี) LB196A (อายุ .9 ปี) และ LB22DA (อายุ 4.4 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายใน แต่ละรุ่นเท่ากับ 10,129 ล้านบาท 6,393 ล้านบาท และ 5,929 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รุ่น LH194A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 864 ล้านบาท หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุ่น BAY203A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 529 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รุ่น BANPU195A (A+) มูลค่าการ ซื้อขาย 356 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากในตราสารระยะยาว ด้านปัจจัยต่างประเทศ รายงาน Beige Book ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจนถึงวันที่ 9 ก.ค. ระบุว่า "กลุ่มผู้ผลิตในทุกเขตได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า โดยหลายเขตรายงานว่า ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น และห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ได้รับผลกระทบ จากมาตรการการค้าที่มีการนำมาใช้ในปัจจุบัน" ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงท่าทีปกป้องรัสเซียต่อประเด็นข้อกล่าวหาการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ระหว่างพบหารือสุดยอดกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ที่ประเทศฟินแลนด์ ทั้งนี้ตลาดติดตามดัชนีราคาบ้านเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ ในวันอังคาร (24 ก.ค.)
สัปดาห์ที่ผ่านมา (16 – 20 ก.ค. 2561) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 9,217 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 10,956 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 4,040 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 2,302 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (16 - 20 ก.ค. 61) (9 - 13 ก.ค. 61) (%) (1 ม.ค. - 20 ก.ค. 61) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 402,104.84 295,741.65 35.96% 11,483,414.68 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 80,420.97 59,148.33 35.96% 83,820.55 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 104.18 104.32 -0.13% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 104.88 104.95 -0.07% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (20 ก.ค. 61) 1.24 1.49 1.56 1.94 2.26 2.76 3.18 3.64 สัปดาห์ก่อนหน้า (13 ก.ค. 61) 1.23 1.5 1.56 1.86 2.18 2.76 3.16 3.65 เปลี่ยนแปลง (basis point) 1 -1 0 8 8 0 2 -1