บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กร ของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (RATCHGEN) ที่ระดับ "AAA" ซึ่งอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงการที่บริษัทมีกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้จากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเทคโนโลยีที่ทันสมัยของโรงไฟฟ้าราชบุรีและโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ รวมถึงผลงานในการบริหารโรงไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับและการมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งของบริษัท
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต คือ กระแสเงินสดที่มั่นคงจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ กฟผ. โดยโรงไฟฟ้าของบริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ กฟผ. (ได้รับอันดับเครดิต "AAA" จากทริสเรทติ้ง) โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวกำหนดให้บริษัทดำรงความพร้อมของโรงไฟฟ้าในการจ่ายไฟฟ้าตามคำสั่งของ กฟผ. ซึ่ง กฟผ. จะจ่ายค่าความพร้อมของโรงไฟฟ้า (Available Payment) ให้แก่บริษัทเต็มจำนวนตราบเท่าที่โรงไฟฟ้าสามารถบรรลุเป้าหมายความพร้อม นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายไฟฟ้ายังเอื้อให้บริษัทส่งผ่านภาระต้นทุนเชื้อเพลิงไปให้แก่ กฟผ. ด้วยซึ่งช่วยลดความเสี่ยงด้านราคาของเชื้อเพลิงของบริษัท
ผลการดำเนินงานเป็นที่ประจักษ์ ทั้งโรงไฟฟ้าราชบุรีและโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ของบริษัทมีผลการดำเนินงานเป็นที่ประจักษ์มาเกือบ 20 ปี โรงไฟฟ้าทั้งสองสามารถบรรลุเป้าหมายความพร้อมของโรงไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้เป็นส่วนใหญ่ โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ค่าความพร้อมและประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าดังกล่าวดีกว่าเป้าหมายที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเกือบทุกปี
ไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ในอนาคตอันใกล้ บริษัทไม่มีแผนสำหรับการลงทุนขนาดใหญ่ในช่วงนี้จนถึงปี 2563 ปัจจุบันประเทศไทยจัดว่ามีส่วนเกินกำลังการผลิตไฟฟ้าซึ่งหมายถึงกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันมีมากกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในอีก 5 ปีข้างหน้าเป็นอย่างต่ำ นอกจากนี้ แนวโน้มพลังงานทดแทนยังเป็นประเด็นที่จำกัดความต้องการโรงไฟฟ้าแบบดั้งเดิมในประเทศไทยด้วย
ฐานะทางการเงินของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปอีกอย่างน้อย 3 ปี ทั้งนี้ ณ เดือนมีนาคม 2561 บริษัทมีเงินกู้รวม 3,788 ล้านบาทและมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ระดับ 13.2% ทริสเรทติ้งประมาณการว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะอยู่ในช่วง 13%-16% จนถึงปี 2563 โดยขึ้นอยู่กับความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท อัตราส่วนดังกล่าวจะดีขึ้นไปอีกเมื่อบริษัทชำระคืนหนี้หุ้นกู้จำนวน 2,000 ล้านบาททั้งหมดในปี 2565
สภาพคล่องมีเพียงพอ บริษัทมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งมาก โดยแหล่งเงินทุนประกอบไปด้วยเงินสดจำนวน 557 ล้านบาทและวงเงินกู้ยืมที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกประมาณ 24,500 ล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2561 ส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทในระยะ 12 เดือนข้างหน้านั้นทริสเรทติ้งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,500 ล้านบาท ในขณะที่เงินกู้ที่จะครบกำหนดชำระใน 12 เดือนข้างหน้าซึ่งเป็นเงินกู้จากผู้ถือหุ้นนั้นมีประมาณ 1,800 ล้านบาท ทริสเรทติ้งไม่คาดว่าบริษัทจะมีการลงทุนขนาดใหญ่จนถึงปี 2563 นอกจากงบลงทุนเพื่อการซ่อมบำรุงประจำปีประมาณ 150-200 ล้านบาทต่อปี
แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงดำรงความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าและรักษาผลการดำเนินงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้ต่อไป อีกทั้งจะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงไปจนตลอดอายุของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง อันดับเครดิตของบริษัทอาจมีการปรับลดลงในกรณีที่บริษัทมีภาระหนี้เงินกู้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญซึ่งอาจมาจากการใช้เงินกู้ในการลงทุนขนาดใหญ่