(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งบวกในกรอบแคบหลัง Sentiment หุ้นทั่วโลกดี-ราคาน้ำมันขึ้น-งบฯบจ.ออกมาดี-ตปท.ซื้อต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 25, 2018 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวแดนบวกในกรอบแคบ เนื่องจาก Sentiment หุ้นทั่วโลกอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวขึ้น อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในบ้านเราก็ออกมาค่อนข้างดี โดยวานนี้ผลประกอบการของ SCCC ก็ออกมาดีกว่าคาด ทำให้อาจมีลุ้นที่จะมีการปรับเพิ่มประมาณการขึ้น

นอกจากนี้ แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติก็มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน รวมถึงมีการทำ Long ในตลาด TFEX ด้วย อย่างไรก็ตามวันนี้ให้ติดตามการประกาศผลประกอบการของ SCC ต่อไป

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยช่วงนี้ก็เป็นช่วงประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในแต่ละตลาดฯเหมือนกัน ดังนั้น การเคลื่อนไหวของแต่ละตลาดฯจึงมีปัจจัยเฉพาะตัวที่ให้ความสำคัญในช่วงนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,660-1,665 จุด ส่วนแนวต้าน 1,685 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ก.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,241.94 จุด เพิ่มขึ้น 197.65 จุด (+0.79%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,820.40 จุด เพิ่มขึ้น 13.42 จุด (+0.48%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,840.77 จุด ลดลง 1.10 จุด (-0.01%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 83.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 244.40 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 37.73 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.90 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.98 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 8.17 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ก.ค.61) 1,674.22 จุด ลดลง 1.53 จุด (-0.09%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,316.62 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ก.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ก.ค.61) ปิดที่ 68.52 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ก.ค.61) ที่ 6.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.37 แข็งค่าจากวานนี้ รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น มองกรอบวันนี้ 33.30-33.45
  • กรมศุลกากรได้ออกประกาศพิธีการศุลกากรนำเข้าหรือปล่อยออก การเก็บของ การขนถ่ายของ การตรวจตราและการควบคุมในเขตปลอดอากรใหม่ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยยกเว้นกฎหมายนำเข้าส่งออกในพื้นที่เขตปลอดอากร ใน 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง- อู่ตะเภา) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อเอื้อต่อการลงทุนและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในการกระจายสินค้าในภูมิภาคนี้
  • ภาพรวมธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยปี 2561 คาดว่าจะมีมูลค่า 3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีมูลค่า 2.81 ล้านล้านบาท โดยเป็นการเติบโตจาก อี-คอมเมิร์ซแบบธุรกิจสู่ผู้บริโภค หรือบีทูซี ที่ขยายตัว 28.89% ในปี 2560 ที่ผ่านมา
  • โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินอีอีซีนั้นจะมีพื้นที่ให้เอกชนพัฒนาเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 175 ไร่ รวมมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท มีระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี แบ่งเป็น 1.พื้นที่มักกะสัน 150 ไร่ มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท 2.พื้นที่ศรีราชา 25 ไร่ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท
  • "พาณิชย์" เผยการค้าชายแดนและผ่านแดนครึ่งปีแรกทะลุ 6.78 แสนล้านบาท เพิ่ม 6.78% เผยมาเลเซียนำโด่งค้าขายอันดับหนึ่ง ตามด้วย สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชา จีนตอนใต้ เวียดนาม และสิงคโปร์ มั่นใจครึ่งปีหลังยังเพิ่มต่อเนื่อง จากความต้องการสินค้าไทยและเศรษฐกิจคู่ค้าขยายตัว ทั้งปีเป้า 15% ทำได้แน่
  • เอกชนชี้โครงการอีอีซียังขาดแรงดึงดูด ห่วงราคาที่ดินพุ่งเร็ว หวั่นปัญหาโฉนดและวัตถุดิบไม่เพียงพอ ด้านค่ายรถไม่สนนโยบายรัฐดันใช้ดีเซล บี20 'บีบีจีไอ' ลุยลงทุนเพิ่ม 1.5 พันล้านบาท ขยายกำลังผลิต

*หุ้นเด่นวันนี้

  • DIMET-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ไดเมท (สยาม) หรือ DIMET) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 268,953,447 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 1 ปี มีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 1.15 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 31 ส.ค.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 19 ก.ค.62
  • NYT (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 6.70 บาท ช่วง Q2/61 คาดกำไรเติบโต 5.5%YoY จากปริมาณส่งออกรถยนต์โตสดใสส่วนปี 61-62 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 3.3% จากออร์เดอร์ส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำมันคงเป็นขาขึ้น และราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 30.1% และคาดให้ Div. Yield ปีนี้ที่ 5.7%
  • TKN (ไอร่า) เป้า 19.50 บาท คาดกำไรสุทธิ Q2/61 ที่ 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%QoQ และ 22%YoY จากการรับรู้ต้นทุนสาหร่ายล็อตใหม่ที่ถูกลงราว 10% จากเดิม โดยใช้สาหร่ายล็อตใหม่ ประมาณ 40-50% ใน 2Q61 คาดช่วยให้ความสามารถทำกำไรเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยคาด Gross Profit Margin ประมาณ 30% ใน Q2/61 เพิ่มขึ้นจาก 28.2% เมื่อ Q1/61 พร้อมคาดยอดขายยังเติบโตได้ดีจากยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมมองฟื้นตัวต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง จากการรับรู้ต้นทุนสาหร่ายล็อตใหม่อย่างเต็มที่ และการเข้าสู่ High Season ของธุรกิจ ส่งผลให้ยอดขายโตต่อเนื่อง รวมทั้ง Utilization Rate ของโรงงานใหม่ปรับตัวดีขึ้น คาดช่วยลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลง ประกอบกับการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี (BOI) ของโรงงานแห่งใหม่ คาดช่วยลดอัตราภาษีเงินได้ในภาพรวมลง คาดกำไรสุทธิปี 61 โต 2% อยู่ที่ 765 ล้านบาท
  • BJC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 61 บาท คาดกำไรปกติ +5% Q-Q, 38% Y-Y อยู่ที่ 1,374 ล้านบาท เป็นเพียง 1 ใน 2 บริษัทของกลุ่มค้าปลีกที่กำไรปกติโตได้ทั้ง Q-Q และ Y-Y จากการเติบโตที่ดีของ 4 ธุรกิจหลัก คือ Retail, Packaging, Consumer, และ Healthcare and Technical รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวขึ้นด้วย แนวโน้มกำไร Q3/61 อาจไม่แผ่วตามฤดูกาลเพราะมีปรับโครงสร้างภาษี และน่าจะโตต่อเนื่องไปรับ High Season ใน Q4/61 โดยคาดกำไรสุทธิทั้งปี 6,567 ล้านบาท +26% Y-Y

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ