นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้รับรายงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กรณีเหตุเขื่อนดินย่อยกั้นช่องเขา เพื่อเสริมการกั้นน้ำรอบอ่างเก็บน้ำเซน้ำน้อย โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อยในลาวทรุดตัวและแตก ส่งผลให้มีมวลน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนในลาว โดยกฟผ.ได้สั่งการให้บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุน 25% ในโครงการดังกล่าวเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งบริษัทก็มีมาตรการสำหรับรับมือกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติที่เป็นมาตรการอันดับแรกในการลงไปช่วยเหลือแล้ว ขณะที่กฟผ.ก็ได้จัดส่งเครื่องมือและอุปกรณ์การช่วยเหลือเข้าไปช่วยผู้ประสบภัยดังกล่าวด้วย
ส่วนการตรวจสอบสาเหตุและความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นเรื่องที่ทางการลาวจะดำเนินการตรวจสอบเอง เพราะเรื่องเกิดในประเทศลาว ส่วนไทยจะเป็นฝ่ายสนับสนุนการดำเนินงาน โดยเฉพาะการเร่งความช่วยเหลือผู้เดือดร้อน
ด้านนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.มอบหมายให้ RATCH ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้าไปตรวจสอบประสิทธิภาพของเขื่อนดินย่อยรอบเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในระยะต่อไป หลังมีเขื่อนดินย่อย 1 แห่งชำรุดจนทำให้มีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
อย่างไรก็ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเซเปียน เซน้ำน้อย ขนาดกำลังผลิต 410 เมกะวัตต์ เพราะเขื่อนดินย่อยดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากเขื่อนหลักราว 10 กิโลเมตร ส่วนจะกระทบการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนก.พ.62 หรือไม่นั้น RATCH จะต้องเข้าไปประเมินความเสียหายร่วมกับพันธมิตรร่วมลงทุนในลาวต่อไป รวมถึงต้องรอผลการตรวจสอบจากทางการลาวต่อกรณีที่เกิดขึ้นจะเกิดจากความผิดพลาดในกระบวนการก่อสร้างหรือไม่
อนึ่ง โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เซเปียน-เซน้ำน้อย ดำเนินการโดยบริษัท ไฟฟ้า เซเปียน-เซน้ำน้อย จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท RATCH ในสัดส่วน 25% SK Engineering & Construction Company Limited สัดส่วน 26% Korea Western Power Company Limited สัดส่วน 25% และรัฐบาล สปป. ลาว 24% โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างมีความก้าวหน้าประมาณ 90% ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีสัญญาขายไฟฟ้า 354 เมกะวัตต์ ให้แก่ กฟผ. ระยะเวลา 27 ปี (ปี 62-89) และอีก 40 เมกะวัตต์ จะผลิตและจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าลาว
ด้านนายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า EXIM BANK ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดผ่านผู้ลงทุนของโครงการฯ และทราบว่าเกิดเหตุพายุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องใน สปป.ลาว ทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลเข้าสู่พื้นที่กักเก็บน้ำของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ในสปป.ลาว ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทไฟฟ้า เซเปียน-เซน้ำน้อย จำกัด ทำให้เขื่อนดินย่อยสร้างขึ้นเพื่อเสริมการกั้นรอบอ่างเก็บน้ำเซน้ำน้อยโครงการโรงไฟฟ้าเกิดการทรุดตัว เกิดรอยร้าวและน้ำไหลออกไปสู่พื้นที่ท้ายน้ำและลงสู่ลำน้ำเซเปียนที่อยู่ห่างพื้นที่เขื่อน และก่อให้เกิดเหตุอุทกภัยบริเวณใกล้เคียง
ในเรื่องนี้ EXIM BANK จะดำเนินการร่วมมือกับโครงการในการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และในเบื้องต้น EXIM BANK ได้สนับสนุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแก่ สปป.ลาว ในครั้งนี้ จำนวน 100,000 บาท ผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ความร่วมมือของ EXIM BANK ในการสนับสนุนทางการเงินร่วมกับสถาบันการเงินอื่นแก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย เป็นไปเพื่อส่งเสริมการพัฒนาของทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืน โดยโครงการนี้มีการกำหนดให้ผู้ลงทุนดำเนินการตามมาตรฐานต่างๆ ที่เป็นไปตามกฎระเบียบของ สปป.ลาว รวมทั้งกำหนดให้มีที่ปรึกษาด้านเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อตรวจสอบและควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามคุณภาพและมาตรฐานสากล ทั้งนี้ EXIM BANK จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป