SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,701.87 จุด เพิ่มขึ้น 11.79 จุด (+0.70%) มูลค่าการซื้อขาย 49,499.17 ล้านบาท รับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ทั้งพลังงาน,แบงก์,วัสดุก่อสร้าง หนุนดัชนีปิดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ นักวิเคราะห์ฯ คาดได้ Sentiment บวกจากภูมิภาคเอชียปรับขึ้น หลังคลายกังวลสงครามการค้า ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยทำให้ต่างชาติอาจกลับเข้ามาซื้อหรือชะลอขาย และน่าจะยังเป็นโมเมนตัมบวกต่อในสัปดาห์หน้า แต่ดัชนีขึ้นมามากแล้วอาจทำให้เผชิญแรงขายออกมาบ้างกดดันการปรับขึ้นในกรอบจำกัด มองแนวรับบริเวณ 1,680 และแนวต้าน 1,720 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,701.87 จุด เพิ่มขึ้น 11.79 จุด (+0.70%) มูลค่าการซื้อขาย 49,499.17 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,702.30 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,689.69 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 717 หลักทรัพย์ ลดลง 534 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 526 หลักทรัพย์
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับ Sentiment บวกจากตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากตลาดคลายความกังวลสงครามการค้าหลังจากสหรัฐฯและสหภาพยุโรป (EU) ส่งสัญญาณยุติข้อพิพาทการค้า และเชื่อว่าสหรัฐฯกับจีนก็น่าจะเจรจากันได้ ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ทำให้คาดว่าต่างชาติอาจจะกลับมาซื้อหรือชะลอการขายหลังจากที่ขายสุทธิเล็กน้อยเมื่อวานนี้
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นในกรอบจำกัด หลังจากเดือนก.ค.ดัชนีปรับขึ้นมาแล้วกว่า 6% แต่ยังเป็นโมเมมตัมที่จะปรับขึ้นต่อได้ โดยมองว่าการปรับขึ้นในระยะต่อไปอาจจะช้าลง และตลาดก็เริ่มกังวลว่ากองทุนในประเทศจะกลับมาขายหรือไม่หลังจากที่ได้เข้าซื้อสุทธิมามากในช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม การปรับลดลงของดัชนีก็จะไม่มากนัก แม้คาดว่าอาจจะมีแรงขายทำกำไรหลังจากที่บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/61 ในสัปดาห์หน้า แต่ก็เชื่อว่าตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากต่างประเทศที่จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งหากเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวขึ้นก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเอเชียให้ดีขึ้นด้วย
"ลงก็ไม่ลงมาก-ขึ้นก็ไม่เกิน 1,720 จุด ตลาดยังเป็น Sideway up แต่การขึ้นจะไม่เหมิอนกับในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นขนาดใหญ่น่าจะถูกขายทำกำไรหลังจากประกาศผลประกอบการออกมา สัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีที่จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/61 ซึ่งคาดว่าจะออกมาดี แต่ตรงนี้ตลาดรับรู้แล้ว ทำให้เกิดการ sell on good news"นายวิวัฒน์ กล่าว
ตลาดหลักทรัพย์ฯจะหยุดทำการในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.) เนื่องในวันอาสาฬบูชา และวันจันทร์ (30 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันหยุดชดเชยวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้ มองแนวรับสัปดาห์หน้าบริเวณ 1,680 จุด และแนวต้านที่ 1,720 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,520.20 ล้านบาท ปิดที่ 51.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,703.88 ล้านบาท ปิดที่ 138.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,948.23 ล้านบาท ปิดที่ 76.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,642.82 ล้านบาท ปิดที่ 215.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,590.35 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท