ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,697.62 จุด ลดลง 4.25 จุด (-0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 26,009.49 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ และปรับตัวลดลงเคลื่อนไหวในแดนลบในช่วงท้ายตลาดภาคเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,709.58 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,695.94 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาส่วนใหญ่แกว่งตัวในกรอบแคบ อิงแดนบวก ซึ่งยังมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ อย่างหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ยังมีแรงซื้อเข้ามา แต่ตลาดฯก็เริ่มมีการย่อตัวลงในช่วงท้ายการเทรดภาคเช้า คาดว่ามาจากแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค.นี้ ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯหรือไม่
ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ผ่านมาส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยที่ตลาดยังรอปัจจัยการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ส่วนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งยังไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อภาพรวมตลาดหุ้นเอเชียในเช้าวันนี้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา คาดว่า ดัชนีฯจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ แต่อาจจะมีแรงกดดันจากแรงขายออกมาระหว่างทางเพื่อลดความเสี่ยงก่อนผลการประชุมเฟดจะเกิดขึ้น โดยรอความชัดเจนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ
พร้อมให้แนวต้าน 1,706 จุด แนวรับ 1,694 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,866.26 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,268.05 ล้านบาท ปิดที่ 75.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,124.11 ล้านบาท ปิดที่ 138.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,071.85 ล้านบาท ปิดที่ 216.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,025.66 ล้านบาท ปิดที่ 203.00 บาท ลดลง 1.00 บาท