โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) แม้ว่าผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 61 จะไม่โดดเด่น จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขวดพลาสติก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 30-40% ของต้นทุนการผลิต และเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว ประกอบกับระยะยาวผลการดำเนินงานยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มช่วงไตรมาส 2/61 ยอดขายยังคงเติบโตแม้กำไรจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่กำไรยังเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 จากยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นหลัก หลังจากที่รุกตลาดในกลุ่มอาเซียน ตะวันออกกลาง และอียูกว่า 80 ประเทศ โดยคาดว่ายอดขายต่างประเทศทั้งปีนี้จะสามารถเติบโตได้ 12% ขณะที่ตลาดในประเทศเตรียมออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องทุกไตรมาสช่วยกระตุ้นยอดขายในประเทศเติบโตได้ 5%
ราคาหุ้น SAPPE ปิดเช้าอยู่ที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.98% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.25%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ทิสโก้ ซื้อ 32.00 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 28.50 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 29.00 หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 30.75
นักวิเคราะห์จาก บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ได้ปรับคำแนะนำจาก"ถือ"มาเป็น"ทยอยซื้อ"สำหรับหุ้น SAPPE แม้ว่าผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้จะไม่โดดเด่น จากต้นทุนของขวดพลาสติกที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยต้นทุนขวดพลาสติกคิดเป็นสัดส่วนราว 30-40% ของต้นทุนการผลิต และเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว ประกอบกับ ระยะยาวมองว่า SAPPE ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
ส่วนทิศทางกำไรในช่วงไตรมาส 2/61 มองว่าจะลดลง 24.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/61 ราว 5% โดยยอดขายยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นราว 10% ในเดือน มิ.ย. รวมถึงมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ในช่วงไตรมาส 2/61 ยอดขายของ SAPPE ยังคงเติบโตแม้กำไรจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามกำไรยังเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 จากยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นหลัก หลังจากที่ SAPPE ทำการตลาดในกลุ่มอาเซียน ตะวันออกกลาง และสหภาพยุโรป (อียู) กว่า 80 ประเทศ โดยคาดว่ายอดขายต่างประเทศทั้งปีจะสามารถเติบโตได้ 12%
ในส่วนของยอดขายในประเทศเตรียมออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องทุกไตรมาส ได้แก่ กาแฟผง "เพรียว" จำนวน 2 SKU ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ และสินค้าใหม่กลุ่มขนม Healthy Snack ในช่วงครึ่งปีหลัง จะช่วยกระตุ้นยอดขายในประเทศให้มีการเติบโต โดยคาดว่ายอดขายในประเทศทั้งปีจะเติบโตได้ 5%
ทั้งนี้ แนะนำ"ซื้อ"สำหรับ SAPPE จากแนวโน้มกำไรสุทธิที่ดีขึ้นจากการส่งออก รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายที่ลดลง
ด้านบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่าในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ SAPPE จะออกสินค้าใหม่ในกลุ่ม Healthy Snack วางตลาดในช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งจะช่วยประคองกำไรในไตรมาส 3/61 ให้ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนไม่รุนแรงเท่ากับทุกปีที่ผ่านมาที่จะลดลงตามฤดูกาล และคาดว่าจะหนุนรายได้ในประเทศกลับมาเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ ขณะที่ตลาดต่างประเทศคาดเติบโตเช่นกันจากการขยายพื้นที่จัดจำหน่ายในประเทศส่งออกเดิมในวงกว้างมากขึ้น
ทั้งนี้ ยังคงแนะนำ"ซื้อ" แม้ว่าจะปรับประมาณการส่วนแบ่งผลการดำเนินงานจาก All Coco เป็นขาดทุน 12 ล้านบาท จากเดิมคาดกำไร 12 ล้านบาท แต่ในปีนี้กำไรของ SAPPE ยังถือว่าทำสถิติสูงสุดใหม่ ที่ราว 452 ล้านบาท เติบโต 18.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนประกอบกับระดับ P/E ปัจจุบันที่ราว 17.3 เท่า ยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 3 ปี จึงยังมี Upside gain ที่ค่อนข้างสูง