(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:วิตกแนวโน้มศก.สหรัฐ ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 172.65 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 18, 2007 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในสหรัฐ อีกทั้งกังวลว่ามาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินครั้งใหม่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แข็งแกร่งพอที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศหรือไม่
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 172.65 จุด หรือ 1.29% แตะระดับ 13,167.20 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 22.05 จุด หรือ 1.50% แตะระดับ 1,445.90 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 61.28 จุด หรือ 2.32% แตะระดับ 2,574.46 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 3.42 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นจากวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 3.25 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1
นายอัลเฟรด โกลด์แมน นักวิเคราะห์จากเอจี เอ็ดเวิร์ด แอนด์ ซัน กล่าวว่า "นักลงทุนไม่มั่นใจว่ามาตรการอัดฉีดเม็ดเงินมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบ โดยผ่านทางการเปิดประมูลเงินกู้ระยะสั้นครั้งใหม่ของเฟดนั้น มีประสิทธิภาพมากพอที่จะเยียวยาภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อได้หรือไม่ หลังจากที่เฟดได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นเพียง 0.25% ไม่ใช่ 0.50% ตามที่คาดการณ์ไว้"
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้นหลังจาก อลัน กรีนสแปน อดีตประธานเฟด ให้สัมภาษณ์ในรายการ "This Week" ของสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า รัฐบาลสหรัฐควรอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกอบกู้วิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้สามารถทำได้โดยผ่านการใช้นโยบายลดหย่อนภาษี พร้อมกับเตือนว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐกำลังพุ่งสูงขึ้นจนน่าเป็นห่วง
ก่อนหน้านี้ กรีนสแปนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยมีอยู่ถึง 50% และเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐใกล้เข้าสู่ภาวะชะงักงันเต็มที
ความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อเริ่มก่อตัวขึ้นนับตั้งแต่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.8% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% และเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมา
"ดัชนี CPI ที่พุ่งขึ้นเกินคาดทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนม.ค.ปีหน้า" นายโกลด์แมนกล่าว
ทั้งนี้ หุ้นเทรน อิงค์ ปิดพุ่งขึ้น 21.6% แต่หุ้นอินเกอร์ซอลล์-แรนด์ ปิดดิ่งลง 11.4% จากข่าวที่ว่าบริษัทอินเกอร์ซอลล์-แรนด์จะเข้าซื้อกิจการบริษัทเทรน อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ
เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลง ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย อาทิ หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ