ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดตลาดเช้าปรับตัวลดลงในวันนี้ (18 ธ.ค.) หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมาจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอาจชะลอตัวลงอีกเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการอัดฉีดเม็ดเงินมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบ โดยผ่านทางการเปิดประมูลเงินกู้ระยะสั้นครั้งใหม่ของเฟดนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลกับการที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 170 จุดเท่าไรนัก
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 9.11 น. ตามเวลาในประเทศไทย ดัชนีสเตรทส์ไทม์ลดลง 23.78 จุด หรือ 0.7% แตะที่ 3,329.78 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 179.6 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 223.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
"นักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้น เพราะอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐเพิ่มขึ้นเกิดคาด และโดยปกติแล้วสถานการณ์เช่นนี้มักจะเกิดขึ้นต่อไปอีก 2-3 วัน" แกเบรียล ยัพ ประธานบริษัทดีเอ็มจี แอนด์ พาร์ทเนอร์สกล่าว
"ผมคิดว่าโดยทั่วไปแล้วตลาดจะยังคงซบเซาเช่นนี้ต่อไปอีก หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกนั้นก็คงจะลดลง"
สหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อว่าเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นปัจจัยที่ฉุดให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และตลาดหุ้นอื่นๆในเอเชียร่วงลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นแคปิตอลแลนด์ ลดลง 10 เซนต์ หุ้นเค็พเพล แลนด์ ลดลง 5 เซนต์ และหุ้นซิตี้ ดีเวล็อปเม้นท์ ร่วงลง 20 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--