หุ้น STANLY ราคาพุ่งขึ้น 4.78% มาอยู่ที่ 285 บาท เพิ่มขึ้น 13 บาท มูลค่าซื้อขาย 41.55 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.57 น. โดยเปิดตลาดที่ 274 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 288 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 274 บาท
นายสุรชัย ประมวลกิจเจริญ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า STANLY ถือว่ามีปัจจัยพื้นฐานดี มีการเติบโตดีต่อเนื่อง และ STANLY จะประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 61/62 (เม.ย.-มิ.ย.61) ในวันศุกร์นี้ ซึ่งก็คาดว่ากำไรน่าจะเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาส 1 ปี 60/61 มีกำไรสุทธิ 296 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน คาดว่าจะมีกำไรที่ชะลอตัวลง เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์มียอดการผลิตที่ลดลง 3-4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ดังนั้น ยอดขายของ STANLY ก็คาดว่าจะชะลอด้วยเมื่อเทียบต่อไตรมาส ซึ่งในไตรมาส 4 ปี 60/61 (ม.ค.-มี.ค.61) มีกำไรสุทธิ 555 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานทั้งปี 61/62 (เม.ย.61-มี.ค.62) ของ STANLY คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1,800 ล้านบาท เติบโต 10.7% จากปีก่อนหน้า โดยทั้งปี STANLY น่าจะยอดขายเติบโต 7.5% สูงกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เติบโตเฉลี่ย 5.5%
ทั้งนี้ STANLY ส่วนใหญ่จะขายสินค้าให้กับค่ายรถยนต์ในประเทศเป็นหลัก ดังนั้น จึงไม่ค่อยจะมีผลส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX) แต่ยอดขายของ STANLY ดีมาจากการที่ได้ออร์เดอร์ใหม่จากการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวสินค้า พร้อมแนะนำ"ซื้อ"หุ้น STANLY ให้ราคาเป้าหมาย 300 บาท/หุ้น
"ราคาหุ้น STANLY ปรับตัวขึ้นมาสองวันแล้ว แต่ควรระวังการลงทุนมากขึ้น เพราะเวลาที่ไม่มีสภาพคล่องก็จะหายไป"นายสุรชัย กล่าว