ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด ตามทิศทางตลาดภูมิภาคที่กลับมากังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีนตีงเครียดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากสหรัฐออกมาประกาศว่าจะปรับเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
เมื่อเวลา 10.59 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,711.27 จุด ลดลง 10.74 จุด (-0.62%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.11 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,706.81 จุด ลดลง 15.20 จุด (-0.88%)
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบราว 0.7% จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้กลับมาอีกครั้ง ภายหลังจากที่สหรัฐขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเป็น 25% จากก่อนหน้านี้ระบุว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 10% นอกจากนี้ก็ยังได้รับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลงเป็นผลจากสต็อคน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นมาหลายวันติดต่อกัน ขณะนี้มีแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,720 จุด และหากดัชนีฯยังไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,705 จุด มองว่าน่าจะเป็นการย่อตัวลงเล็ก ๆ เท่านั้น เนื่องจาก Fund Flow ยังไหลกลับมาที่ Emerging Market มากขึ้น และเงินบาทก็เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิ 3 วันติดต่อกัน รวมถึงได้ทำ Net Long ในตลาด TFEX รวม 8 วันที่ผ่านมาถึง 70,000 สัญญา ทำให้ภาพรวมตลาดบ้านเราถือว่าใช้ได้
อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจไทยก็ออกมาดี ขณะนี้รอเพียงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเพื่อยืนยันภาพรวมเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยสัปดาห์นี้ ADVANC จะประกาศงบการเงินไตรมาส 2/61 และสัปดาห์หน้าก็จะมีหุ้นอีกหลายตัวทยอยประกาศออกมา
พร้อมให้แนวรับ 1,700 จุด ส่วนแนวต้าน 1,720 จุด