นายประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบมจ.บีอีซีเวิลด์ (BEC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายผลการดำเนินงานในทุกธุรกิจปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อน และช่วงครึ่งปีหลังนี้ก็น่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังจากไตรมาส 2/61 รายได้จากสื่อโฆษณาโทรทัศน์ติดลบ 3% แม้ว่าจะมีรายการฟุตบอลโลกเข้ามาช่วยทำให้ติดลบไม่มากนัก ขณะที่การสำรวจลูกค้าเอเยนซี่มองว่าสื่อโฆษณาโทรทัศน์ก็ยังไมค่อยดี ประกอบกับจำนวนช่องทีวีดิจิทัลยังไม่ลดลง ทำให้การแข่งขันราคายังคงสูง ซึ่ง BEC ก็ยังต้องประคองตัวกันต่อไป
แต่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ นอกเหนือจากค่าโฆษณาทางทีวี โดยการนำละครของช่อง 3 ออกไปเสนอขายในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากตลาดมีอัตราเติบโตที่ดีและให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ซึ่งจะมีการเพิ่มช่องทางการขายผ่านตัวแทน ล่าสุดได้ Tencent ซึ่งเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตหรือบริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของจีนเข้าเป็นพันธมิตร
พร้อมกันนั้น บริษัทจะขับเคลื่อนผลักดันดีมานต์ตลาดต่างประเทศให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในการขายคอนเทนท์ละครเพิ่มเติมอีกหลายราย โดยคาดว่าจะมีพันธมิตรที่พร้อมซื้อละครไปออนแอร์ไม่ต่ำกว่า 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่ และรวมไปถึงตลาดฮ่องกง มาเก๊า กลุ่ม CLMV(กัมพูชา ลาว เวียดนาม เมียนมา) ที่บริษัทเข้าไปขายเอง รวมทั้งทำอีเว้นท์ต่อยอดละครกระตุ้นความนิยมและเพิ่มช่องทางรายได้
นอกจากนั้น BEC จะเพิ่มช่องทางรับชมคอนเทนท์มากขึ้น ทั้ง Online , Digital Platform ขณะเดียวกัน ยังมีแนวคิดเข้าซื้อกิจการ ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อเพิ่มช่องทางรายได้มากขึ้น และพร้อมขึ้นเป็น Content Provider อย่างสมบูรณ์แบบ
ปัจจุบัน รายได้หลักของกลุ่ม BEC มาจากสื่อโฆษณาทีวี 89% อีกสัดส่วน 7% มาจากสื่อ Online และ Global Licensing ที่เหลือมาจากอื่น อาทิ การขายบัตรคอนเสิร์ต เป็นต้น