ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อเก็งกำไร ดันฟุตซี่ปิดบวก 32.8 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ธ.ค.) จากแรงซื้อเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนเคลื่อนตัวผันผวนและถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน เพราะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ที่ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 32.8 จุด แตะระดับ 6,397.0 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.05 พันล้านหุ้น
          นายจิมมี ยาเตส นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนเคลื่อนตัวผันผวนเพราะได้รับอิทธิพลจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงกว่า 100 จุด หลังจากดัชนี CPI สหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด โดยนักลงทุนกังวลว่าดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งหน้า"
          กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไปในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.8% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% และเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
          ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมา หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ติดต่อกันเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว
          ทั้งนี้ หุ้นธนาคารนอร์ทเธิร์นร็อคปิดพุ่งขึ้น 5.9 เพนซ์ แตะระดับ 91.9 เพนซ์ หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่าบริษัทโอลิแวนท์อาจเข้าซื้อกิจการธนาคารนอร์ทเธิร์นร็อค
          แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ในยุโรปและตะวันออกกลาง ลงสู่ระดับ 'neutral' จากระดับ 'attractive'  โดยหุ้นอันโตฟากัสต้าซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองแดง ร่วงลง 31.5 เพนซ์ ปิดที่ 702.5 เพนซ์ หุ้นแองโกล อเมริกันปิดลดลง 108 เพนซ์ แตะระดับ 3,072 เพนซ์ และหุ้นรีโอ ทินโตปรับตัวลง 118 เพนซ์ ปิดที่ 5,176 เพนซ์