ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดตลาดเช้าปรับตัวลดลงในวันนี้ (17 ธ.ค.) หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงจากความวิตกกังวลที่ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง
ดัชนีอุตสาหกรรมเฉลี่ยดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 178 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่สหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ที่ 0.6% ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% นับเป็นสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 9.02 น. ตามเวลาในประเทศไทย ดัชนีสเตรทส์ไทม์ลดลง 49.3 จุด หรือ 1.4% แตะที่ 3,417.08 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 34.6 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 66.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
นาจิบ จาร์ฮม หัวหน้านักวิเคราะห์จากฟราเซอร์ ซิเคียวริตี้ส์กล่าวว่า นักลงทุนไม่กล้าเข้าซื้อหุ้นเนื่องจากตลาดยังไร้ทิศทาง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายจะยังคงเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนต่างรอปัจจัยบวกจากต่างประเทศเพื่อหนุนให้ดัชนีเพิ่มขึ้น
หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นปัจจัยที่ทำให้ดัชนีร่วงลงในเช้านี้ โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ร่วงลง 50 เซนต์ หุ้นธนาคารยูโอบี ลดลง 10 เซนต์ และหุ้นโอซีบีซี ลดลง 10 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--