(เพิ่มเติม) TUF มีแผนขยายกำลังผลิตปลาทูน่าเพิ่ม หลังเข้าซื้อหุ้นใน"ยู่เฉียงฯ"

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 17, 2007 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2550 มีมติเห็นชอบการเข้าลงทุนในบริษัท ยู่เฉียงแคนฟู้ด จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลบรรจุกระป๋องในประเทศเวียดนาม โดยใช้เงินลงทุนกว่า 110 ล้านบาท 
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร TUF กล่าวว่า บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีสัดส่วนการถือครองหุ้นสูงถึง 51% ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและวางรากฐานการผลิตให้กับกลุ่มไทยยูเนี่ยน
"การเข้าลงทุนนี้ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 110 ล้านบาท โดยซื้อได้ในราคาต้นทุนเดิม (Book Value) นับว่าเป็นราคาซื้อที่เหมาะสมกับโอกาสและผลประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับในอนาคต" นายธีรพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในปีหน้า บริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตในส่วนของปลาทูน่าเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมองว่ามีแนวโน้มที่ดี และยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการผลิตให้รองรับกับการเติบโตของกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้คาดว่ายอดขายในส่วนของปลาทูน่าจะมีอัตราที่เพิ่มขึ้น 47% ในปี 2551 และ 49% ในปี 2552
บริษัท ยู่เฉียงแคนฟู้ด จำกัดที่สงขลาแคนนิ่งเข้าไปลงทุนนั้น เป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลบรรจุกระป๋องชั้นนำในประเทศเวียดนาม ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดลองอัน มีจำนวนพนักงานกว่า 1,000 คน และมีห้องเย็นที่มีความจุถึง 400 ตัน สินค้าหลักจะประกอบด้วย ปู กุ้ง และปลาทูน่า โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา/แคนาดา สหภาพยุโรป และเอเชีย ในส่วนของสินค้าปลาทูน่านั้นที่ผ่านมายังมีการผลิตในสัดส่วนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทปู และกุ้ง
"การที่ไปลงทุนในประเทศเวียดนาม ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีฐานการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งจากที่มีอยู่แล้ว 3 แห่งคือ ประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตแห่งใหญ่ ประเทศอินโดนีเซีย และอเมริกัน ซามัวร์ ซึ่งช่วยเพิ่มความหลายหลากในฐานการผลิต และสร้างศักยภาพความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจให้กับกลุ่มบริษัท ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่น่าสนใจมากในการลงทุน และการที่บริษัทเข้าไปลงทุนในครั้งนี้เชื่อว่าส่งผลดีต่อการขยายฐานการผลิตของเราต่อไปในอนาคต" นายธีรพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการยังพิจารณาและรับทราบการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนของ บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด(มหาชน) ในบริษัท ไทยยูเนี่ยน แฮชเชอรี่ จำกัด [เดิมใช้ชื่อ บริษัท ไฮเฮลท์ (ไทยแลนด์) จำกัด
]จากเดิม 60% เป็น 99.99% คิดเป็นมูลค่าหุ้นสามัญของบริษัท ไทยยูเนี่ยน แฮชเชอรี่ จำกัด จำนวน 3,999,994 หุ้น คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้มาทั้งสิ้น 39,999,940 บาท
เนื่องจากบริษัท ไทยยูเนี่ยน แฮชเชอรี่ จำกัด มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสายพันธุ์กุ้งขาวที่มีคุณภาพ เพื่อผลิตและจำหน่าย
นอเพียส กุ้งพีที่มีคุณภาพให้กับเกษตรกร ซึ่งจะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อการขายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท ตลอดจนการส่งออกผลิตภัณฑ์กุ้งที่มีคุณภาพบริษัทฯ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังพิจารณาและรับทราบการลดทุนของบริษัท ไทยควอลิตี้ ชริมพ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด จากทุนจดทะเบียน 8 ล้านบาท เป็น 4 ล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด จากเดิม 49.99% เป็น 95% จึงมีผลให้บริษัท ไทยควอลิตี้ ชริมพ์ จำกัด เปลี่ยนจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด
พิจารณาและรับทราบการจำหน่ายไปซึ่งกิจการของบริษัท โคซี่ เทรดดิ้ง (เซี่ยงไฮ้) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ไทย
รวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด เนื่องจากเสร็จสิ้นโครงการศึกษาตลาดการจำหน่ายอาหารทะเล ในประเทศจีน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ