นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ อิงทางบวก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้รีบาวด์ทางเทคนิคขึ้นมาได้ราว 2% และคาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรอิงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเมื่อวานนี้งบฯของ ADVANC ก็ออกมาดีตามคาด และยังมีการจ่ายเงินปันผลด้วย
อย่างไรก็ดี มองว่าตลาดฯคงจะไปได้ไม่ไกลคาดว่าจะแกว่งในกรอบ 1,700-1,720 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังระวังสถานการณ์การค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ หลังจากที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยวันนี้ให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคบริการของหลายประเทศทั่วโลก และให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในคืนนี้ ส่วนบ้านเราก็ติดตามการทยอยประกาศงบฯต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,700 จุด ส่วนแนวต้าน 1,715-1,720 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 ส.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,326.16 จุด ลดลง 7.66 จุด (-0.03%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,827.22 จุด เพิ่มขึ้น 13.86 จุด (+0.49%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,802.69 จุด เพิ่มขึ้น 95.40 จุด (+1.24%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 73.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 27.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 37.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.62 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 14.27 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 3.94 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 3.08 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ส.ค.61) 1,708.28 จุด ลดลง 13.73 จุด (-0.80%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 339.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ส.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 ส.ค.61) ปิดที่ 68.96 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 1.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ส.ค.61) ที่ 6.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.33 แนวโน้มอ่อนค่า ตลาดยังกังวลปัญหาสงครามการค้า มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 33.30-33.40
- "สมคิด"สั่งตั้งหน่วยงานพิเศษดูแลนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่นำร่องจีน ขีดเส้น 10 วันต้องเห็นแผนจัดตั้ง ให้ข้อมูลข่าวสาร ดูแลปลอดภัย เล็งใช้"วีแชท"เตือนภัยนักท่องเที่ยวจีน ลุ้นฟื้นตลาดจีนทันเดือน ต.ค.ชาวจีนแห่เที่ยววันชาติ ขณะ"วีระศักดิ์"รุดบินจีนเคลียร์ปมกลางส.ค. คาดจ่อสูญรายได้ 3.7 หมื่นล้าน
- "ก.อุตสาหกรรม" จ่อคลอดแพกเกจสินเชื่อใหม่ควบคู่การแจกคูปองอุ้ม "เอสเอ็มอี" เข้าถึงรายเล็กมากขึ้นในครึ่งปีหลังอีก 2-3 หมื่นราย วงเงินสินเชื่อ รายละ 1-5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ สรุป ส.ค. ก่อนชง ครม.ภายใน ก.ย.นี้
- "อาคม"หารือ"ญี่ปุ่น"ยืนยันร่วมลงทุนในพื้นที่ EEC ทุกโครงการ พร้อมจับมือเอกชนไทยยื่นประมูล รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน-พัฒนา อู่ตะเภาและแหลมฉบัง เฟส 3 "อุตตม" เผยเตรียมหารือ อีอีซี 3 ส.ค.ติดตามความคืบหน้า ก่อนชงคณะใหญ่ที่ "ประยุทธ์" เป็นหัวโต๊ะ 10 ส.ค.นี้
- ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย ก.ค.61 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 82.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 81.3 โดยเป็นการปรับต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 62 เดือน หรือ 5 ปี 2 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2556 นอกจากนี้ ยังเป็นการปรับตัวดีขึ้นในทุกรายการ เนื่องจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคเริ่มรู้สึกว่ามีรายได้ในกระเป๋าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากปรากฏการณ์ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาที่ คนออกเดินทางคึกคักและมีการใช้จ่าย มากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว
- สศค.เตรียมส่งร่างกฎหมายกำกับนอนแบงก์ ให้ระดับนโยบายพิจารณา หลังทำประชาพิจารณ์แล้ว ไม่มีผู้คัดค้าน ย้ำเพื่อวางมาตรฐานให้ชัดเจน สกัดผู้ให้บริการบางรายคิดดอกเบี้ย ไม่เป็นธรรม
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยผลดำเนินงานสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือแบงก์รัฐ 5 เดือนแรก 2561 ว่า ยอดสินเชื่อของทั้งระบบอยู่ที่ 4.61 ล้านล้านบาท ชะลอตัวลงเมื่อเทียบไตรมาสแรกของปีนี้ ที่มียอดสินเชื่อคงค้าง 4.63 ล้านล้านบาท ด้านเงินรับฝากอยู่ที่ 4.70 ล้านล้านบาท ชะลอตัวลงเมื่อเทียบจากไตรมาสแรกที่มียอดเงินฝากคงค้างที่ 4.75 ล้านล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- IVL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 75 บาท คาดกำไรสุทธิ Q2/61 ที่ 7.5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 29%qoq และ 155%yoy จาก spreads ผลิตภัณฑ์ ยังเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะ PTA spread และยังได้แรงหนุนจาก Volume ขายที่เพิ่มขึ้น
- BCP (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 42 บาท การให้บริการกลุ่มลูกค้าที่ใช้น้ำมัน B20 เป็นกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ยังมีจำนวนจำกัด ในมุมมองความน่าสนใจของการเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลจะอยู่ที่การปรับจาก B7 เป็น B10 สำหรับรถยนต์ทั่วไป ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผู้ให้บริการค้าปลีกน้ำมัน และการจัดจำหน่าย B100 โดย BBGI ที่ BCP มีแผนจะนำเข้า IPO ในช่วงปลายปี 2561 ซึ่งมองเป็น 1 ใน Catalyst ในช่วงครึ่งปีหลัง นอกเหนือไปจากการกลับมาเดินเครื่องเต็มที่หลังซ่อมบำรุงใหญ่ใน Q2/61 ด้านเทคนิค ลุ้นรีบาวน์ ต้าน 36.5/38.0 รับ 35 บาท
- PTTEP (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 159 บาท คาดผลงานปี 61 ยังคงโดดเด่นจากแนวโน้มราคาก๊าซและราคาน้ำมันที่ยังคงเพิ่มขึ้น แนวโน้มราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 70-71 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง จากการลดปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปก รวมถึงการผลิตที่ลดลงจากเวเนซุเอลาและการแซงชั่นอิหร่าน ขณะที่รอยื่นประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณคาดได้เปรียบจากเป็นผู้ประกอบการเดิม และเงื่อนไขการประมูลให้น้ำหนักกับความมั่นคงต่อเนื่องของการผลิตและการจ้างงานคนไทยด้วย