บล.ไอร่า มอง SET เดือน ส.ค.รับปัจจัยบวกงบการเงิน-ปันผล บจ.เศรษฐกิจไทยโตดีต่อเนื่อง แนะจับตาปัจจัยกดดันตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 3, 2018 10:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางจิตรลดา เลขาพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ไอร่า (AS) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นในเดือนสิงหาคม ได้รับปัจจัยบวกจากการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/61 พร้อมการประกาศจ่ายปันผล ถึงกลางเดือน ส.ค.นี้ ประกอบกับการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอยู่ในกรอบ 65-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งได้รับปัจจัยบวก จากการส่งออกของซาอุดิอาระเบียที่ลดลง และคาดสต็อกน้ำมันของตลาดโลกในไตรมาส 3/61 มีแนวโน้มลดลง จากความต้องการใช้น้ำมันจำนวนมาก รวมถึงความผันผวนของเงินสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงที่อ่อนค่าลง

รวมถึง มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจดีต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ว่าไตรมาส 2/61 มีการขยายตัวมากกว่า 4.0% หลังไตรมาส 1/61 เติบโต 4.8% สูงสุดในรอบ 5 ปี พร้อมคาดอัตราการขยายตัว (GDP) ปี 61 ขยายตัว 4.4% (4.2-4.7%) ซึ่งสูงสุดในรอบ 6 ปี ตามการส่งออก คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% และการท่องเที่ยว คาดรายได้เติบโต 11%

ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันภาพรวมการลงทุนในเดือนนี้มาจาก Fund Flow ต่างชาติยังขายสุทธิตลอด 7 เดือนแรกของปี 61 จำนวน 190,699 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในเดือน ก.ค.61 ยอดขายสุทธิชะลอตัวลงเหลือ ประมาณ 10,622 ล้านบาท ดีขึ้นจากเฉลี่ย 6 เดือนแรกของปี 61 อยู่ที่ประมาณ 30,013 ล้านบาท/เดือน

สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาสำหรับเดือนนี้ คือ วันที่ 8 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมของ กนง. ซึ่งคาดว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% ต่อปี แต่คาดอาจมีการเริ่มส่งสัญญาณลดการใช้นโยบายผ่อนคลายลง หลังเศรษฐกิจขยายตัวดีต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมาย คาดอาจมีการพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปี 62

ประกอบกับ ความไม่แน่นอนในเรื่องนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งหากมีการประกาศออกมาเพิ่ม และเลวร้ายกว่าที่ตลาดฯ รับรู้ก่อนหน้า คาดอาจทำให้เกิดความขัดแย้งและส่งผลกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลก และคาดสร้างความผันผวน รวมถึงส่งผลต่อความเชื่อมั่นลงทุน เช่นที่เกิดขึ้นในช่วงผ่านมา และ Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯ หลังขึ้นไป ระดับสูงสุดที่ 3.07% เมื่อกลาง พ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นมาใกล้ระดับ 3.0% คาดอาจกลับมาเป็นประเด็นกดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง

ดังนั้นประเมินกลยุทธ์การลงทุนในเดือนนี้ว่า มีโอกาสฟื้นตัวแต่อยู่ในกรอบจำกัด ภายใต้ประเด็นในประเทศ บวกกับแรงเก็งกำไรผลประกอบการและเงินปันผล โดยคาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,760 จุด แนะนำหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากส่งออก การท่องเที่ยว และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐ และแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตดีขึ้นตามลำดับ โดยมีหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ AOT, กลุ่มธนาคาร แนะนำ BBL และ KTB นอกจากนี้ ยังแนะนำ GCAP, BANPU, COM7, SVI, STEC และ TKN เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ