นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า บริษัทได้นำรถยนต์ต้นแบบภายใต้แบรนด์ MINE Mobility รถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบและผลิตโดยฝีมือคนไทยเป็นรายแรก ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ มาร่วมแสดงภายในงาน Thailand Industry Expo 2018 ที่จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคมนี้ โดยเป็นผลงานจากการออกแบบของทีมงาน EA ด้วยคอนเซ็ปต์ MISSION NO EMISSION พันธกิจไร้มลพิษ ที่มุ่งเน้นการสร้างยานยนต์ที่ไร้มลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดและปลอดภัย ง่ายต่อการบำรุงรักษา ให้ความคุ้มค่าในระยะยาว
สำหรับรถยนต์ที่นำมาแสดงเป็นรุ่น MINE MPV EV รถอเนกประสงค์แบบ MPV ที่ภายในกว้างทั้ง 4 ที่นั่ง ทำสปีดได้สูงสุด 140 กม./ชม. วิ่งได้ระยะทางประมาณ 200 กม. เมื่อประจุแบตเตอรี่เต็ม โดยหากใช้เครื่อง Quick Charge ของ EA ซึ่งทันสมัยที่สุดในประเทศ จะใช้เวลาชาร์จไม่เกิน 15 นาที จัดแสดงคู่กับเครื่องชาร์จที่ใช้อัดประจุไฟฟ้าทั้งแบบ Normal Charge และ Quick Charge รองรับการใช้งานของรถยนต์ทุกรุ่น
พร้อมนี้ EA ยังได้แสดงเซลแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเทคโนโยลี STOBA ซึ่งปลอดภัย ไม่ระเบิด และเป็นเทคโนโลยีที่ชนะเลิศได้รับรางวัล R&D 100 ปี 2017 นับเป็นรางวัลด้านการวิจัยและพัฒนาระดับโลก
อีกทั้ง เพื่อเป็นการตอกย้ำความพร้อมของบริษัทในการเดินหน้าตามแผนงานสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดกำลังผลิต 50 กิ๊กะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกและใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย โดยแบตเตอรี่ที่ผลิตได้จะนำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพระบบการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของทั้งประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงนำไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย
ในส่วนของสายธุรกิจไบโอดีเซลนั้น ได้แสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำมันปาล์ม ซึ่งเรียกว่ากรีนดีเซล และ PCM ที่ทีมวิจัยและพัฒนาของ EA ได้มีการศึกษากันมากว่า 3 ปีแล้วจนประสบความสำเร็จ และติดตั้งเครื่องจักรเพื่อเริ่มทดลองผลิตแล้วเป็นรายแรกของไทย โดยกรีนดีเซลต่อยอดพัฒนาจากการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลแบบเดิมให้ดีขึ้นจนมีคุณสมบัติใกล้เคียงน้ำมันดีเซลที่กลั่นจากน้ำมันดิบแต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า สามารถนำไปผสมในน้ำมันดีเซลปกติได้เพิ่มเติมจากไบโอดีเซลแบบเดิม ทำให้เครื่องยนต์สะอาด ลดปริมาณมลพิษจากท่อไอเสียของเครื่องยนต์และลดการใช้น้ำมันดีเซลที่ผลิตจากน้ำมันดิบได้อย่างมาก จึงเป็นที่ต้องการของตลาดมาก
สำหรับ PCM หรือ Phase Change Material เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำมันปาล์มเป็นรายแรกๆ ของโลก โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง PCM เป็นสารที่สามารถปรับเปลี่ยนสภาพการเป็นของแข็งของเหลวเพื่อควบคุมอุณหภูมิ และลดการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่ต้องการของตลาดมากโดยเฉพาะต่างประเทศ สามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง
"ท่ามการปรับเปลี่ยนทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วนี้ เราได้คาดการณ์และเตรียมแผนธุรกิจไว้ล่วงหน้าแล้ว จะเห็นได้ว่า EA มุ่งมั่นและใช้เวลาในการศึกษาเตรียมการเพื่อจะนำเทคโนโลยีมาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะเพิ่มการเติบโตให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าแล้ว ผลิตภัณฑ์ใหม่คือ กรีนดีเซลและ PCM ยังมีส่วนในการช่วยเพิ่มความต้องการน้ำมันปาล์มเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบการผลิตได้ถึง 1 ล้านไร่ ซึ่งผมมั่นใจว่าสิ่งที่เราคิดค้นขึ้นมาทั้งหมดโดยฝีมือคนไทย จะเป็นส่วนสำคัญในการลดปัญหาราคาพืชผลของชาวสวนปาล์มได้อย่างยั่งยืนในอนาคต"นายสมโภชน์ กล่าว