(เพิ่มเติม) PTT ยืนยันโอนทรัพย์สินหลักเฉพาะตามคำพิพากษาศาลฯ, คำนึงภาระหนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 17, 2007 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

           นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. (PTT) กล่าวว่า ปตท.ยืนยันจะปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยเคร่งครัด แต่ไม่สามารถปฏิบัติเกินเลยนอกเหนือจากคำพิพากษาของศาลได้ เพราะจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก(กว่า 10 ล้านคน) 
"โดยเฉพาะการโอนทรัพย์สินที่สำคัญนอกเหนือไปจากคำพิพากษาของศาลจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น ตาม พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน กลต. ในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถือหุ้นกู้และเจ้าหนี้เงินกู้ มิฉะนั้น จะถือเป็นเหตุผิดนัดและผิดสัญญากับหนี้ของ ปตท. สำหรับในเรื่องอำนาจมหาชนของรัฐนั้น ปัจจุบัน ปตท.ไม่มีอำนาจนี้อยู่แล้ว" นายประเสริฐ ระบุ
ทั้งนี้ ทรัพย์สินตามคำพิพากษาที่ ปตท.ต้องโอนให้กระทรวงการคลังเป็นทรัพย์สินที่ได้ เนื่องจากการปิโตรเลียมฯ ใช้อำนาจมหาชนเหนือที่ดินของเอกชนและได้จ่ายค่าทดแทนโดยใช้เงินทุนของรัฐ ได้แก่ ที่ดินเวนคืน 32 ไร่ ที่การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยโอนให้กับ ปตท.
สิทธิการใช้ที่ดินของเอกชนเพื่อการวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ ที่การปิโตรเลียมฯ โอนให้กับ ปตท. และทรัพย์สินระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ประกอบด้วยท่อส่งก๊าซ รวมทั้งวัสดุ และอุปกรณ์ที่ประกอบเป็นระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติอันเกิดจากการใช้อำนาจมหาชนเหนือที่ดินของเอกชน เพื่อวางระบบดังกล่าว ในขณะที่เป็นการปิโตรเลียมฯ และได้จ่ายเงินค่าทดแทน โดยอาศัยทรัพย์สินของรัฐซึ่งการปิโตรเลียมฯ ได้โอนแก่ ปตท.
สำหรับทรัพย์สินที่ปตท. ได้มาโดยมิได้ใช้อำนาจมหาชน แต่ได้มาโดยวิธีการอื่น เช่น การซื้อ จัดหา หรือแลกเปลี่ยน ตามมาตรา 7 (1) แห่งพระราชบัญญัติการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2521 นั้น ไม่ถือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินและไม่ถือเป็นที่ราชพัสดุ
นายประเสริฐ กล่าวว่า ทรัพย์สินที่ต้องโอนกลับคืนไปให้รัฐบาลน่าจะมีมูลค่าไม่ถึงหลักแสนล้านบาท
อนึ่ง ศาลได้วินิจฉัยว่า ให้ ปตท.ยังคงมีสิทธิในการใช้ที่ราชพัสดุหรือสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ ปตท.เคยมีอยู่ต่อไป โดยต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายได้แผ่นดินตามที่กระทรวงการคลังกำหนด อย่างไรก็ตามเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย การคิดค่าตอบแทนฯ ต้องคำนึงถึงภาระหนี้สินที่ ปตท.ได้กู้ยืมมาใช้ในการก่อสร้างระบบท่อส่งก๊าซฯ ดังกล่าวด้วย
นายประเสริฐ กล่าวว่า ปตท.น้อมรับคำสั่งศาลให้โอนทรัพย์สินคืนให้กับรัฐ และพร้อมจะรับภาระภาษีจากการโอนทรัพย์สินและจ่ายค่าเช่าย้อนหลังไปถึงปี 2544 ในช่วงหลังการแปรรูปจนถึงปัจจุบัน แต่ที่ผ่านมาผู้ที่เกี่ยวข้องไม่มีใครพูดถึงภาระหนี้สินที่เกิดจากการลงทุนสร้างท่อก๊าซที่ปตท.ต้องแบกรับอยู่ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรจะต้องเข้ามาพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย
"ค่าเช่าและภาษีไม่ใช่ประเด็น เพราะปตท.พร้อมจะจ่าย แต่ภาระหนี้ทีเกิดจากการสร้างท่อก๊าซ ไม่มีผู้ใดที่จะช่วยรับผิดชอบกับปตท. มีแต่บอกให้โอนท่อก๊าซคืน แต่ภาระหนี้สินยังอยู่กับปตท. ซึ่งเจ้าหนี้ก็ต้องเรียกคืนหนี้อยู่ดี ไม่มีใครรับโอนหนี้จากเรา ภาระตรงนี้ยังคงเป็นของปตท.จะให้แบกรับหนี้ตรงนี้คนเดียวหรือไม่"นายประเสริฐ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ