(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: ดาวโจนส์ดึงสเตรทส์ไทม์ปิดร่วง 112.82 จุด

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดร่วงลงในวันนี้ (17 ธ.ค.) ตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยที่ทำลายความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
          สภาพการซื้อขายในตลาดซบเซาลงกว่าเดิมหลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งระบุว่ายอดส่งออกสินค้านอกภาคน้ำมันในประเทศประจำเดือนพ.ย. ลดลง 3.4% เหลือ 1.46 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นับเป็นสถิติที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ทั้งที่ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า จะมีการขยายตัวราว 1.6 - 4.5%
          "การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทำให้สภาพตลาดที่แย่อยู่แล้วยิ่งเลวร้ายลงไปอีก" ซอง เซง วุน หัวหน้านักวิจัยจาก CIMB-GK กล่าว "นับเป็นข้ออ้างที่ดีสำหรับนักลงทุนในการเทขายทำกำไร"
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดลดลง 112.82 จุด หรือ 3.3% ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 3,353.56 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.4 พันล้านหุ้น มูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
          ดัชนีดาวน์โจนส์ปรับลดลงกว่า 178 จุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังมีการเปิดเผยข้อมูลที่ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.6% ในขณะที่ดัชนีเงินเฟ้อหลักซึ่งไม่นับรวมอาหารและพลังงานก็เพิ่มขึ้น 0.3% นับเป็นการปรับเพิ่มมากที่สุดในรอบ 10 เดือน
          นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อยับยั้งมิให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
          นาจี๊บ จาร์ฮอม หัวหน้านักวิจัยตลาดค้าปลีกจาก Fraser Securities กล่าวว่า แนวโน้มตลาดจนถึงครึ่งแรกของปี 2551 จะยังคงซบเซาอันเป็นผลมาจากวิกฤติในตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
          “การเทขายหุ้นด้วยความตื่นตระหนกจะยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกับคำว่าเศรษฐกิจถดถอย" นายจาร์ฮอมกล่าว
          หุ้นแคปปิตัลแลนด์ เป็นแกนนำในการปรับลดลง โดยร่วงลงกว่า 50 เซนต์สิงคโปร์ ในขณะที่หุ้นกลุ้มอสังหาริมทรัพย์ตัวอื่นก็ปรับลดลงเช่นกัน โดยหุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ลดลง 30 เซนต์ ส่วนหุ้นเคปเพลแลนด์ ก็ลดลง 30 เซนต์ 
          หุ้นกลุ่มธนาคารก็เป็นตัวฉุดตลาดเช่นกัน โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ร่วงลง 70 เซนต์, หุ้นยูโอบี ร่วงลง 70 เซนต์ และ หุ้นโอซีบีซี ลดลง 25 เซนต์                    
          ด้านหุ้นกลุ่มบลูชิป หุ้นสิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ ลดลง 18 เซนต์, หุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชงจ์ ร่วง 80 เซนต์ และ หุ้นสิงคโปร์ เพรส โฮลดิงส์ ลดลง 10 เซนต์          
          หุ้นกลุ่มบริษัทเดินเรือก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นเคปเพล คอร์ป ลดลง 20 เซนต์, หุ้นคอสโค คอร์ป สิงคโปร์ ลดลง 45 เซนต์ และ หุ้น SembCorp Marine ขยับลง 2 เซนต์