นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยว่า การสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน ต่อมุมมองในด้านการลงทุนและคาดการณ์ทิศทางดัชนีราคาหุ้นไทย (SET Index) ณ วันสิ้นปี 2561 มีค่าเฉลี่ย อยู่ที่ 1,803 จุด มากกว่าผลสำรวจของเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่มีผู้ตอบที่คาดว่า ดัชนี ณ วันสิ้นปี 2561 จะอยู่ต่ำกว่า 1,700 จุด
สำหรับระยะเวลาที่เหลือจากนี้ไปตลอดปี มีปัจจัยที่ถูกคาดว่าจะส่งผลในด้านบวก ได้แก่ เศรษฐกิจภายในประเทศรวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) และปัจจัยทางด้านการเมืองในประเทศ ที่รวมแนวโน้มการเลือกต้ง เป็น 2 ปัจจัยที่ผู้ตอบแบบสำรวจเทคะแนนให้อย่างชัดเจนว่าเป็นผลบวก ขณะที่ปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลกได้รับการโหวตมาเพียง 14.81% ซึ่งไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจ
ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลในด้านลบต่อตลาดทุนไทย ในช่วงที่เหลือของปี ได้แก่ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจต่างประเทศ ทั้งอเมริกา ยุโรป เอเชีย รองลงมา คือทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา และตามติดมาด้วยปัจจัยด้านการเมืองในต่างประเทศ อย่างก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า เรื่องปัจจัยอัตราดอกเบี้ยในประเทศนั้นไม่มีผลมากนัก ต่อทิศทางราคาหุ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยมีผู้ตอบเพียง 14.81% ที่มองว่าจะเป็นผลบวกและมีผู้ตอบอีก 22.22% ที่มองแย้งว่าจะเป็นผลลบ
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นั้น นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1/2562 คิดเป็น 44.44% รองลงมา คือ คาดว่าเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4/61 สัดส่วน 37.04% และเริ่มปรับขึ้นในช่วงหลังจากไตรมาส 1/62 ไปแล้ว 14.81% ตามลำดับ
ขณะที่กำหนดการเลือกตั้งของไทย นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค.-พ.ค.62 คิดเป็น 77.78% รองลงมา 14.81% คาดว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย.-ธ.ค.62 ทั้งนี้ มีผู้ตอบแบบสำรวจเพียง 7.41% ที่คาดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือน มิ.ย.-ส.ค.62
นอกจากนี้ผลสำรวจคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของตลาดเฉลี่ยที่ 110.86 บาท ซึ่งผู้ตอบส่วนใหญ่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 110 – 114.99 บาท ส่วน EPS Growth ณ สิ้นปี 2561 คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 10.93%
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการ กองทุน 48.15% มองว่าดัชนีราคาหุ้นไทยในระยะสั้น เป็นไปในทิศทางบวก ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 44.44% มีมุมมองต่อตลาด Sideways หรือไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก และมีเพียง 7.41% มองว่าตลาดจะเปลี่ยนแปลงในทิศทางลบ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุนคาดว่าดัชนีราคาหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนส.ค.จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,720 จุด โดยปัจจัยที่มีผลในระยะสั้นนั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ไตรมาส 2/61 เป็นปัจจัยลำดับแรกที่มีอิทธิพลต่อทิศทางราคาหุ้นไทยระยะสั้น รองลงมาคือ เรื่องปัจจัยสงครามการค้าโลก และ Fund Flow ของต่างชาติและกองทุน
ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวมีตัวแทนทีมวิเคราะห์การลงทุน ทั้งหมด 27 บริษัท แบ่งเป็น บริษัทหลักทรัพย์จำนวน 20 บริษัท บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจำนวน 5 บริษัท และธุรกิจโกลด์ ฟิวส์เจอร์ส 2 บริษัท