นายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารกลยุทธ์องค์กร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 8-10% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะเติบโตได้เพียง 1.6% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่มีความท้าทาย โดยทางธนาคารจะเน้นการปล่อยสินเชื่อ SMEs ขนาดใหญ่และขนาดกลางมากขึ้น จากช่วงครึ่งปีแรกที่มีการขยายตัวได้ต่ำกว่าคาดการณ์
ส่วนสินเชื่อรายใหญ่จะเติบโตตามการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ในขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยยังมีการเติบโต แต่เติบโตไม่มากเท่าที่ผ่านมา เนื่องจากฐานที่ใหญ่ขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา
"เรายังคงป้าหมายการเติบโตไว้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังเราก็จะมีการดำเนินแผนกลยุทธ์ที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น โดยเน้นการรุกในกลุ่มลูกค้าที่เป็น SMEs รายกลาง และรายใหญ่ ที่จะเข้ามาหนุนการเติบโตของสินเชื่อ รวมถึงสินเชื่อบ้านแม้ว่าจะมีการเติบโตที่ไม่มากนัก เนื่องจากฐานที่มีขนาดใหญ่ แต่ก็ยังคงมีการเติบโต"นายนริศ กล่าว
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ธนาคารคาดว่าสิ้นปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 2.4% โดยปัจจุบันอยู่ที่ 2.37% ซึ่งการตั้งสำรองในช่วงที่เหลือของปีนี้จะทรงตัว หรือ ลดลง จากช่วงครึ่งปีแรก โดยในขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการตั้งสำรอง (Credit Cost) ปีนี้อยู่ที่ระดับ 135-145 bps จากปัจจุบัน 146 bps
ส่วนอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ปีนี้จะรักษาให้อยู่ในกรอบ 140-150% จากปัจจุบันอยู่ที่ 140%
ทางด้านกรณีที่ธนาคารมีการขายหุ้น บลจ.ทหารไทย ออกไปนั้น คาดว่าจะมีการบันทึกกำไรจากการขายในครั้งนี้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งกระบวนการอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)