ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อนุมัติวงเงินกู้มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม ความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2551 ทำให้ตลาดเคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 65.27 จุด หรือ 0.50% แตะระดับ 13,232.47 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 9.08 จุด หรือ 0.63% แตะระดับ 1,454.98 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 21.57 จุด หรือ 0.84% แตะระดับ 2,596.03 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.49 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 8 ต่อ 5 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.04 พันล้านหุ้น
นายโยเซฟ แบทติพาเกลีย นักวิเคราะห์จากบริษัทไรอัน เบค แอนด์ โค กล่าวว่า การที่อีซีบีตัดสินใจอนุมัติวงเงินกู้มูลค่ามหาศาลให้กับธนาคารพาณิชย์ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะยื่นมือเข้ากอบกู้วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่ออีกครั้ง นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษประกาศว่าจะนำเงินทุนสำรองออกมาปล่อยกู้เพิ่มขึ้นด้วย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางชั้นนำระดับโลกอีก 4 แห่ง ประกาศใช้มาตรการคลี่คลายวิกฤติสินเชื่อ ซึ่งครอบคลุมถึงการเปิดประมูลวงเงินปล่อยกู้ระยะสั้นชั่วคราวเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์สามารถระดมทุนได้ และจัดตั้งวงเงินสำหรับการสวอปสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยวงเงินที่อัดฉีดเข้าสู่ระบบการธนาคารครั้งนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นวงเงินสูงสุดที่เฟดอัดฉีดเข้าสู่ระบบการธนาคารนับตั้งแต่เกิดเหตุก่อการร้ายในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2544
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากการแสดงความคิดเห็นในด้านลบของวาณิชธนกิจโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการรายไตรมาส
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายซบเซาลงเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนพ.ย.ร่วงลง 3.7% ขณะที่อัตราการก่อสร้างบ้านเดี่ยวชะลอตัวที่สุดในรอบกว่า 16 ปี
ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้นเพียง 2% และหลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้แสดงความคิดเห็นในด้านลบต่อธุรกิจของบริษัท
ขณะที่หุ้นเบสท์บายซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ ดีดขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 51.62 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรพุ่งขึ้น 52% อย่างไรก็ตาม บริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการปีหน้าที่ต่ำเกินคาด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--