หุ้น BCPG ราคาไหลลง 3.68% มาอยู่ที่ 18.30 บาท ลดลง 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 84.37 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.22 น. โดยเปิดตลาดที่ 18.30 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 18.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 18.20 บาท
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 บริษัทมีกำไรสุทธิ 419 ล้านบาท ลดลง 9.4% จากกำไรสุทธิ 462.5 ล้านบาทในไตรมาส 2/60 แต่เพิ่มขึ้น 19.3% จากกำไรสุทธิ 351.15 ล้านบาทในไตรมาส 1/61
ในไตรมาส 2/61 บริษัทมีรายได้จากการขายไฟฟ้าประมาณ 874 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 แต่ลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 60 เนื่องจากความเข้มของแสงลดลงทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น
สำหรับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศฟิลิปปินส์ และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซีย มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเป็นจำนวน 19 ล้านบาท ลดลง 50 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 72.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายทางบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการทำรีไฟแนนซ์โครงการที่อินโดนีเซียเพื่อขยายเวลาการชำระหนี้และเพิ่มกระแสเงินสดให้ดีขึ้น โดยจะมีการบันทึกเพียงครั้งเดียวในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานของโครงการดังกล่าวยังเป็นไปตามปกติ
ทั้งนี้ บริษัทขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งสิ้น 66.7 ล้านบาท ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหาร (Administrative Expense) ลดลงจากไตรมาส 1/61 ราว 8% และลดลง 27.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ณ สิ้นไตรมาส 2/61 กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 33,388 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.8% เทียบกับสิ้นปี 60 สำหรับหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 18,206 ล้านบาท (หากเป็นหนี้สินรวมเท่ากับ 19,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4%) หรือเพิ่มขึ้น 6.9% เทียบกับสิ้นปี 60 และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.32 เท่า ณ สิ้นไตรมาส เพิ่มขึ้นล็กน้อยจาก 1.23 เท่า ณ สิ้นปี 60