IVL มั่นใจผลงาน H2/61 ดีกว่า H1/61 แม้เข้าโลว์ซีซั่นแต่มีกำลังผลิตจาก 3 รง.ใหม่ใน ตปท.หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 8, 2018 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล กรรมการ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมากกว่าครึ่งปีแรก แม้ว่าปกติจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ แต่ในปีนี้บริษัทได้รับรับปัจจัยหนุนจากกำลังการผลิตของ 3 โรงงานใหม่ในบราซิล อียิปต์ และโปรตุเกส เข้ามาเสริมอีก 1.8 ล้านตัน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ดีกว่าปกติ

ทั้งนี บริษัทคาดว่าในไตรมาส 3/61 และไตรมาส 4/61 ผลการดำเนินงานจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 3/61 โรงงานผลิต PET ในบราซิล กำลังการผลิต 550,000 ตัน/ปี จะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มไตรมาส ส่วนโรงงานผลิต PET ในอียิปต์จะรับรู้รายได้เข้ามาเพียง 1 เดือน และรับรู้รายได้เต็มในไตรมาส 4/61 และโรงงานผลิต PTA ในโปรตุเกส จะรับรู้รายได้เต็มในไตรมาส 4/61

บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ในครึ่งปีหลังอยู่ที่ 6.5-7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.1-1.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

"การมีกำลังการผลิตเข้ามาเพิ่มขึ้น จะช่วยทำให้กำไรของบริษัทมากขึ้นตามไปด้วย เพราะนอกจากบริษัทจะสามารถผลิตได้มากขึ้นแล้ว ยังทำให้การผลิตเกิด Economy of scale ซึ่งทำให้ภาพรวมในครึ่งปีหลังของปีนี้แตกต่างจากทุกปี แม้ว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่นก็ตาม"นายดีลิป กล่าว

ในด้านความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในตลาดนั้นยังมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้น และแข็งแร่ง โดยเฉพาะความต้องการใช้จากจีนที่เติบโตในระดับตัวเลขสองหลัก ส่วนซัพพลายในตลาดเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากที่ผู้ประกอบการในตลาดเรื่มมีการปรับตัว เพื่อทำให้ซัพพลายในตลาดไม่มีมากเกินไป และส่งผลดีต่อภาพรวมของอุตสาหกรรม

สำหรับการลงทุนในโครงการอื่นๆนั้น บริษัทยังคงมองหาการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพียงพอต่อการรองรับการลงทุน ขณะที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่อยู่ในระดับต่ำที่ 1.1 เท่า และบริษัทมีวงเงินที่รองรับการลงทุนเหลืออีก 5-6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นายดิลิป กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าในปี 62 กำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ,ภาษีเงินได้ ,ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) จะทำได้ตามเป้าหมาย เพิ่มขึ้น 74% จากปี 60 มาอยู่ที่ 1.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเมื่อช่วงต้นปี 61เนื่องจากพื้นฐานอุตสากรรมที่แข็งแกร่ง การเติบโตของกำไรที่มีความชัดเจน และการมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 13 ล้านตัน/ปี จากปัจจุบันที่ 9.7 ล้านตัน/ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ