ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,723.81 จุด เพิ่มขึ้น 2.17 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 25,023.39 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,729.42 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,716.90 จุด
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้แต่ไม่ร้อนแรงเหมือน 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากหุ้นในกลุ่มพลังงานได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงหลังจีนเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเน้นไปที่น้ำมันและรถยนต์
อนึ่ง กระทรวงพาณิชย์ของจีนยืนยันว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์จะมีผลบังคับใช้วันที่ 23 ส.ค.นี้ ครอบคลุมสินค้า 333 รายการ รวมถึงรถยนต์ ผลิตภัณฑ์เหล็ก และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน เพื่อตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันเดียวกัน
นายสุโชติ กล่าวต่อว่า ทางฝ่ายวิจัย KGI ก็ได้มีการปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1,740 จุด จากเดิมที่มีเป้าหมายกว่า 1,800 จุด ทำให้เห็น Upside ที่อาจตึงอยู่ การปรับขึ้นของดัชนีฯก็ไปได้ไม่ไกล แต่ขณะเดียวกัน Downside ก็ไม่ปรับตัวลงมาก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติได้กลับมาซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.แล้ว
ด้านประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ตลาดฯก็ได้มีการตอบรับไปมากแล้ว จะเห็นได้ว่าตลาดในภูมิภาคเริ่มไม่ปรับตัวลง และบ้านเราเศรษฐกิจเติบโตค่อนข้างดี ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ส่งสัญญณแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตได้ดี ทำให้ความจำเป็นในการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำจะมีน้อยลงในอนาคต พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยยังต้องติดตามประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้แต่ไม่มาก โดยมีแนวรับ 1,720 จุด ส่วนแนวต้าน 1,740 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,561.39 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,377.24 ล้านบาท ปิดที่ 146.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 925.17 ล้านบาท ปิดที่ 218.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 797.22 ล้านบาท ปิดที่ 79.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 698.48 ล้านบาท ปิดที่ 179.00 บาท ลดลง 7.00 บาท