บมจ.อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) เตรียมทุ่มทุนกว่า 90-110 ล้านบาท เดินหน้านำคอนเสิร์ตแนว J-pop และ K-pop เข้ามาจัดในไทยปี 51 โหนกระแสความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นยังแรงหวังโกยเงินเช่นเดียวกับ"ทงบังชิงกิ"และ"เรน"โดยเฉพาะทงบังชิงกิทำกำไรเกือบ 25 ล้านบาทสูงกว่าเป้าหมาย แหล่งข่าวแย้ม "Super Junior"ต่อคิวจัดต้นปีหน้า ตั้งเป้ารายได้รวมทะลุเป้า 650 ล้านบาท
นายกิตติวัฒน์ มโนสุทธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADAM เปิดเผยว่า แผนงานของปีหน้าในเบื้องต้น จะมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ 2 รายการ โดยคอนเสิร์ตแรกคาดว่าจะจัดในช่วงไตรมาส 2/51 ใช้เงินลงทุน 40-50 ล้านบาท คอนเสิร์ตที่ 2 จะจัดราวไตรมาส 4/51 ใช้เงินลงทุนประมาณ 50-60 ล้านบาท
"ที่เราจะเอามาก็ยังเป็นศิลปินเกาหลีที่ดังไล่ ๆ กันกับ"ทงบังชิงกิ" แต่มั่นใจว่าคอนเสิร์ตที่จะทำในปีหน้ามีคนดูแน่นอน เพราะว่าแฟนคลับพวกนี้ราคาตั๋ว 2-3 พันบาทยังไงเค้าก็ดู"นายกิตติวัฒน์ กล่าว
ขณะที่แหล่งข่าววงในของ ADAM เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ศิลปินที่บริษัทได้ติดต่อให้มาคอนเสิร์ตในต้นปีหน้าคาดว่าจะเป็น"Super Junior"ซึ่งเป็นกลุ่มศิลปินบอยแบนด์ชื่อดังอีกวงจากประเทศเกาหลี
นายกิติวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า คอนเสิร์ต"ทงบังชิงกิ"ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเกินความคาดหมาย สามารถจำหน่ายตั๋วชมคอนเสิร์ตได้ทั้งหมด คาดว่าจะทำกำไรให้กับบริษัทสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 17 ล้านบาท แต่คงไม่ถึง 25 ล้านบาท ขณะที่แหล่งข่าวอีกราย เปิดเผยว่า กำไรน่าอาจจะสูงถึง 22-24 ล้านบาท
ส่วนแผนลงทุนในด้านธุรกิจภาพยนตร์ในปีหน้านั้น นายกิตติวัฒน์ กล่าวว่า ภาพยนตร์ 2 เรื่องแรกของบริษัทจะได้เห็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน คือประมาณไตรมาส 2/51 และไตรมาส 4/51 ใช้เงินลงทุน 20 ล้านบาท/เรื่อง โดยจะใช้รูปแบบการลงทุนใหม่ คือ เจ้าของหนังเป็นผู้ผลิต บริษัทเป็นผู้ซื้อสิทธิ ซึ่งเจ้าของหนังจะต้องหาผู้ซื้อสิทธิอีก 4-5 ราย แต่ละรายลงทุน 10-20 ล้านบาท และผู้ซื้อแต่ละรายก็จะได้สิทธิทำตลาดในประเทศไทยเป็นเวลา 5 ปี
"ความเป็นเจ้าของหนังไม่ต้องอยู่กับเรา แต่เราจะทำอะไรก็ได้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ในประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งเรามีแผนจะจับมือกับผู้ผลิตในประเทศในการผลิตและจัดจำหน่าย รวมถึงทำการตลาดให้กับหนังเรื่องนี้"นายกิตติวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 51 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมที่ 650 ล้านบาท สัดส่วนรายได้จะมาจากบริษัท อาดามัส มีเดีย จำกัด และ บริษัท แอปโซลูท อิมแพค จำกัด รวมกันประมาณ 85% ส่วนอีก 15% จะมาจาก บริษัท เอเซียบิส โซลูชั่น จำกัด และบริษัท สไมล์ อินเตอร์แอค ทีฟ จำกัด ซึ่งทำ SMS
สำหรับอาดามัส มีเดีย รายได้ในปีหน้าจะอยู่ที่ 350 ล้านบาท มาจากคอนเสิร์ต 40% หนัง 25% ที่เหลือมาจากการทำการตลาดจากลิขสิทธิถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล FA Cup และฟุตบอลอังกฤษ ส่วนแอปโซลูท อิมแพค (AI) รายได้หลักจะมาจาก In-store Media, End Cap TV, Shelf Media, Mall Wrap
ด้านนายปริน ชนันทรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอปโซลูท อิมแพค (AI) กล่าวเสริมว่า จุดโฆษณาภายใต้บริการของ AI เฟสแรก 9 สาขาจะเสร็จภายในเดือนนี้ และรับรู้รายได้ในต้นเดือนหน้า เฟส 2 จำนวน 23 สาขาในกรุงเทพฯ จะเสร็จประมาณเดือนมิ.ย.51 และจะครบ 53 สาขาทั่วประเทศในปลายปี 51 ใช้เงินลงทุนประมาณ 43.67 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--