หุ้น CHG ราคาวิ่งขึ้น 4.17% มาอยู่ที่ 2.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 166.91 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.05 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.52 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.50 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"เก็งกำไร"หุ้น บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ภายหลังผลประกอบการสูงกว่าตลาดคาด 25% มองว่าตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น
CHG และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 177.96 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.0162 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 118.74 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.0108 บาท พร้อมจ่ายเงินปันผลอัตรา 0.02 บ./หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 22 ส.ค.นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ยังอนุมัติก่อตั้งโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ เพื่อให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางอย่างครบวงจรแก่ลูกค้าทั่วไป และลูกค้าคู่สัญญาเท่านั้น ภายในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดใกล้เคียง โดยจัดตั้งบริษัท มะเร็ง สุวรรณภูมิ จำกัด (บจ.มะเร็ง สุวรรณภูมิ) เพื่อดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งเป็นประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ" มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้น 99.99%
โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ เป็นอาคาร 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 2,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จะเริ่มก่อสร้างในปี 61 คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 2/62 มีงบประมาณในการสร้างโรงพยาบาล 254 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าเช่าที่ดินระยะเวลา 9 ปี 54 ล้านบาท ค่าก่อสร้างและตกแต่ง 50 ล้านบาท และค่าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ 150 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินบางส่วนและใช้กระแสเงินสดภายในจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทในการก่อ สร้างโครงการฯ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดำเนินงานของบริษัท
โรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิจะเปิดให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างครบวงจร บริษัทจะนำเอาความชำนาญและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทมาใช้ในการบริหารจัดการโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ ให้เป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านมะเร็งชั้นนำเพื่อต่อยอดในการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่อไปในอนาคตและเป็นการขยายฐานลูกค้าของบริษัทให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มบริษัท และส่งผลให้บริษัทมีการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ในภาคตะวันออก