นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน (Total Logistics Solutions Provider) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจภาพรวมรายได้ในครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง จากจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากการลงทุนในบริษัท Chi Shan Long Feng Food Co., Ltd. (CSLF) ผู้ให้บริการด้านอาหาร (Food Service) ในประเทศไต้หวัน ตั้งแต่ไตรมาส 3/61 เป็นต้นไป
ตลอดจนเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น หลังจาก JWD เพิ่มสัดส่วนถือหุ้นใน Phnom Penh SEZ Plc. (PPSEZ) ที่ดำเนินธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชาเป็น 14.61% จากเดิม 5.18% และเข้าถือหุ้น 40% ในบริษัท Bok Seng PPSEZ Dry Co., Ltd (Bok Seng) เพื่อรับสิทธิ์บริหารจัดการสถานีบรรจุและแยกสินค้า ธุรกิจคลังสินค้าและให้บริการขนส่งในเขตนิคมฯ พนมเปญเป็นที่เรียบร้อย
ขณะที่การดำเนินธุรกิจหลัก อาทิ ธุรกิจห้องเย็น ให้บริการขนส่งสินค้า รับขนย้าย มีแนวโน้มทำรายได้ที่ดีเช่นกัน โดยภาพรวมรายได้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีอัตราเติบโตที่น่าพอใจ นอกจากนี้ JWD สามารถลดค่าใช้จ่ายจากการเช่าเครื่องจักรเพื่อขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ โดยสั่งซื้อเครื่องจักรดังกล่าวเข้ามาใช้งานเองเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลต่อภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น
นายเอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ของ JWD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/61 สามารถทำรายได้เติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีรายได้จากการให้เช่าและบริการ อยู่ที่ 760.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 48.7 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 49.53 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบริษัททำรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นสามารถชดเชยค่าเช่าทรัพย์สินจากกองทรัสต์จำนวนประมาณ 12 ล้านบาทต่อไตรมาสได้
ปัจจัยการเติบโตมาจากธุรกิจที่ขยายตัวอย่างโดดเด่น ได้แก่ ธุรกิจห้องเย็น มีรายได้ 151.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการเช่าพื้นที่รวมทุกทำเล ณ สิ้นไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 87.8% โดยเฉพาะห้องเย็นที่อำเภอมหาชัย มีอัตราเช่าพื้นที่มากกว่า 90% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจห้องเย็นไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นเป็น 40.1% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 30.4%
ธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้า มีรายได้ 122.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีปริมาณงานเพิ่มขึ้นในการขนส่งทุกประเภท, ธุรกิจรับขนย้าย มีรายได้ 80.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยได้งานทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น ส่วนธุรกิจคลังสินค้าอันตรายและคลังสินค้าทั่วไป มีรายได้เติบโตดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน รวมถึง JWD ยังเริ่มรับรู้รายได้หลังจากเข้าถือหุ้น 60% ใน CSLF ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ มีอัตราเติบโตสูงกว่าเป้าหมาย โดยมีรายได้จากการให้เช่าและบริการรวมทั้งสิ้น 1,414.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่จะเติบโต 7-10% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 90.4 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 89.84 ล้านบาท
"เราทำรายได้ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาได้ดีกว่าเป้าหมาย บวกกับเริ่มรับรู้รายได้จากการควบรวมกิจการและเข้าถือหุ้นในกิจการต่างประเทศ เช่น ธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสในไต้หวัน, การเข้าถือหุ้นในบริษัท Adib Cold Logistics หรือ ACL ที่ดำเนินธุรกิจห้องเย็นและขนส่งในอินโดนีเซีย สะท้อนถึงการนำเงินไปใช้ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทสร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเช่าทรัพย์สินจากกองทรัสต์ AIMIRT ได้เร็วกว่าที่คาดไว้"นายเอกพงษ์ กล่าว