นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด (TAA) เปิดเผยว่า ผลประกอบการเฉพาะไตรมาสที่ 2/61 AAV มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,302.6 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 306.1 ล้านบาท ในขณะที่ TAA มีรายได้รวม 9,302.5 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 567.5 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่สูงขึ้นกว่าปีก่อนร้อยละ 37
อย่างไรก็ตาม สถิติการดำเนินงานยังพบว่าน่าพอใจ โดยมีอัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ที่ร้อยละ 85 และขนส่งผู้โดยสารรวม 5.31 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย TAA ไม่ได้รับเครื่องบินเพิ่มในไตรมาสนี้ ทำให้ยังคงมีเครื่องบินประจำการ 59 ลำ โดยเพิ่มความถี่เที่ยวบินใน 4 เส้นทางบินที่ออกจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) และ 1 เส้นทางบินที่ออกจากเชียงใหม่
สำหรับในไตรมาส 2/61 AAV มีผลขาดทุนสุทธิ 306.1 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 170.65 ล้านบาทในไตรมาส 2/60 ทำให้ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ มีผลกำไรสุทธิ 698 ล้านบาท ลดลง 6% จากกำไรสุทธิ 740.97 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในช่วงครึ่งแรกปีนี้ AAV มีรายได้รวมอยู่ที่ 20,896.2 ล้านบาท ขณะที่ TAA มีรายได้รวม 20,896.2 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิที่ 1,267.1 ล้านบาท โดยมีอัตราขนส่งผู้โดยสาร ที่น่าพอใจอยู่ที่ร้อยละ 88 ขนส่งผู้โดยสารไปแล้วรวม 10.95 ล้านคน สูงขึ้นร้อยละ 15
"ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนหลักของทุกสายการบิน แต่เราก็ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถปรับตัวได้และมีผลประกอบการที่น่าพอใจในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้เมื่อดูจากส่วนแบ่งการตลาดเส้นทางภายในประเทศเรายังรักษาความเป็นอันดับหนึ่ง อยู่ที่ร้อยละ 33 รวมทั้งความพยายามในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ด้านเครือข่ายบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายในครึ่งปีแรกเราเปิดเส้นทางบินใหม่ไปแล้วกว่า 7 เส้นทาง จากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) ไประนอง, ยะโฮร์ บาห์รู, เฉิงตู และชุมพร รวมถึงจากภูเก็ตไปมาเก๊าและคุนหมิง อีกทั้งจากเชียงใหม่ไปอุดรธานี เพื่อชิงความได้เปรียบการเติบโตในอนาคตต่อไป"นายสันติสุข กล่าว
นายสันติสุข กล่าวว่า สิ่งที่น่าภูมิใจอย่างยิ่งคือการที่กลุ่มสายการบินแอร์เอเชียยังเป็นแบรนด์ที่มีมาตรฐานบริการและได้รับการยอมรับระดับโลก โดยได้รับรางวัลสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก 10 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 52-61 จากสถาบันสกายแทรกซ์ รวมทั้งการฉลองยอดผู้โดยสารครบ 500 ล้านคน นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา โดยผู้โดยสารคนที่ 500 ล้านเป็นคนไทยและได้รับสิทธิ์บินฟรีตลอดชีวิต ก็เป็นการตอกย้ำว่าเราเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ครองใจและเติบโตพร้อมในทุกสถานการณ์
สำหรับด้านการดำเนินงานครึ่งหลังปีนี้ TAA จะปรับตัวกับสถานการณ์น้ำมันได้ดียิ่งขึ้น และเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมองโอกาสในฐานปฏิบัติการการบินอื่น ๆ นอกกรุงเทพฯ มาเสริมทัพ การนำเครื่องบินใหม่ไปประจำการที่เชียงใหม่เพิ่ม เพื่อเปิดบินตรงสู่เส้นทางระหว่างประเทศ เช่น บินตรงสู่ย่างกุ้ง ไทเป และฮานอย ซึ่งเปิดตัวไปแล้ว นอกจากนี้ TAA ยังผลักดันนโยบายการพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับบริษัทในระยะยาว และเกิดประโยชน์ทั้งกับนักลงทุน ผู้ใช้บริการ สังคม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน