BKD เริ่มรับรู้ธุรกิจน้ำประปาในเดือนนี้ พร้อมลุ้นผลประมูลงานใหญ่ 500-600 ลบ.,คาด Q3/61 รายได้ทำจุดสูงสุดของปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 10, 2018 13:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวณัฐนันท์ ประสงค์ชัยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอก เดค-คอน (BKD) เปิดเผยว่า โครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในจังหวัดภูเก็ตและพังงาที่บริษัทเข้าร่วมลงทุนในบริษัท โกลด์-ชอร์ส จำกัด (GS) สัดส่วน 46% จะเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือน ส.ค.นี้

ทั้งนี้ ระยะแรกแรกคาดว่าจะเริ่มผลิตเพียงส่วนหนึ่งราว 5,000-6,000 ลูกบาศก์เมตร จากกำลังผลิตรวม 25,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งลูกค้าหลักเป็นกลุ่มโรงแรมและท่าอากาศยานที่มีความต้องการใช้น้ำประปามาก โดยที่กำลังการผลิตในเฟสแรกมีลูกค้าทำสัญญาซื้อไว้ทั้งหมดแล้ว จึงคาดว่าในสิ้นปีนี้โครงการดังกล่าวจะมีรายได้อยู่ที่ 80 ล้านบาท และในช่วงต้นปี 62 จะสามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่คาดว่าจะทำรายได้ราว 200 ล้านบาท/ปี

บริษัทยังอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่หลังจากยื่นข้อเสนองานตกแต่งภายในโรงแรมในเกาะสมุยและจังหวัดกระบี่ มูลค่ารวม 500-600 ล้านบาทตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะรู้ผลภายในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ และยังคงมองหาการประมูลงานเพิ่มเติมเพื่อรักษาระดับงานในมือ (Backlog) ไม่ให้ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท

บริษัทมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีงานที่เปิดประมูลออกมาไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการตกแต่งภายในและปรับปรุง (รีโนเวท) โรงแรม ซึ่งจะกระจุกตัวอยู่ในช่วงไตรมาส 3/61 ค่อนข้างมาก เพราะเป็นช่วงที่บรรดาโรงแรมต่าง ๆ จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/61 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ เนื่องจากงานในมือส่วนใหญ่กำหนดทยอยรับรู้รายได้ในช่วงนี้ โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/61 บริษัทมี backlog ราว 2 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เข้ามาในครึ่งปีหลังราว 1 พันล้านบาท หรือ 50% ของมูลค่า Backlog ทั้งหมด

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 ยอมรับว่าอาจปรับลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 เพราะในช่วงต้นปีบริษัทมีกำหนดส่งมอบงานจำนวนมาก ทำให้มีการรับรู้รายได้เข้ามามาก ขณะที่ไตรมาส 2/61 การส่งมอบงานลดลงและเป็นช่วงที่มีวันหยุดเทศกาลค่อนข้างมากทำให้งานส่วนใหญ่จะไปส่งมอบในไตรมาส 3/61 แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจะยังมีการเติบโตขึ้น

นางสาวณัฐนันท์ กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.89 พันล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 24% เนื่องจากบริษัทเน้นควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ และเน้นการรับงานที่ให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง โดยงานส่วนใหญ่ของบริษัทที่รับเข้ามาในปัจจุบันเป็นงานภาคเอกชนกว่า 70% โดยเฉพาะงานตกแต่งภายในโรงแรม อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และคอนโดมิเนียม เป็นต้น

ด้านแผนการพัฒนาที่ดินใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าคูคตนั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไร และยังไม่ได้เจรจากับพันธมิตรรายใด เพราะปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าที่ผ่านบริเวณดังกล่าวยังไม่เปิดให้บริการ ดังนั้น จึงยังมีเวลาที่บริษัทจะศึกษาอย่างรอบคอบ แต่หากมีผู้สนใจซื้อที่ดินหรือเข้ามาร่วมทุนพัฒนาโครงการบริษัทก็ยังเปิดกว้างรับข้อเสนอมาพิจารณา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ