นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 3,098 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 5,211 ล้านบาท หรือลดลง 2,113 ล้านบาท คิดเป็น 40.5% เพราะในไตรมาสนี้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงมาที่ 431 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 2,431 ล้านบาท หรือลดลง 2,000 ล้านบาท และมีการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์และเครื่องบินจำนวน 257 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนฯ 390 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 2 ปี 2561 บริษัทมีกำไรจากการขายหุ้นในบริษัท โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำนวน 655 ล้านบาท และกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ รวมประมาณ 632 ล้านบาท
สำหรับค่าใช้จ่ายรวม 50,046 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,022 ล้านบาท หรือ 6.4% เนื่องจากค่าน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 1,873 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.3% จากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นถึง 36.5% ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น 1,158 ล้านบาท หรือ 3.4% สาเหตุหลักเกิดจากค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยาน และค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 มีรายได้รวมจำนวน 47,239 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 30% ประกอบกับการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้กลุ่มบริษัทฯ ขาดทุนจากการดำเนินงาน 2,807 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 52.4% ที่มีขาดทุนจากการดำเนินงาน 1,842 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ซึ่งปกติเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว การแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินยังคงรุนแรง ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรกยังคงมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจการบิน (Operating profit) จำนวน 1,028 ล้านบาท ดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 41.8% และมีขาดทุนสุทธิ 382 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 82.9% ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 2,054 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมในงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 มีจำนวน 100,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%
นางอุษณีย์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูธุรกิจปี 2561 ต่อเนื่องมาจากไตรมาสก่อนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลการดำเนินงานมีกำไรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพ การให้บริการที่เทียบเคียงมาตรฐานชั้นนำ โดยผลสำเร็จของการดำเนินการปรับปรุงการบริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้การบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ ได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมของโลกหลายรางวัลอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้รับมอบเครื่องบินใหม่แบบแอร์บัส A350-900 เพิ่มอีก 1 ลำ สำหรับให้บริการในเส้นทางข้ามทวีปและเส้นทางภูมิภาค ทำให้มีจำนวนเครื่องบินที่ใช้ในการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 จำนวน 105 ลำเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 8 ลำ มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 5.3% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 1.6% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 75.8% ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 78.5% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 5.90 ล้านคน ใกล้เคียงกับปีก่อน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 281,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2560 จำนวน 1,181 ล้านบาท (0.4%) หนี้สินรวม มีจำนวน 250,635 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 จำนวน 1,873 ล้านบาท (0.8%) และส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 31,321 ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2560 จำนวน 692 ล้านบาท (2.2%) ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผลขาดทุนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้