"ธีระชัย"เผยปี 51 ก.ล.ต.เน้นเชื่อมโยงเวทีตปท./พร้อมชิงเก้าอี้อีกสมัย

          นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า แผนงานในปี 51 ก.ล.ต.จะให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงกับ ก.ล.ต.ต่างประเทศ เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนในต่างประเทศเข้ามาในหลากหลายรูปแบบ และการกระตุ้นผู้ประกอบการเพื่อรองรับการแข่งขัน 
          พร้อมเตรียมแผนงานกำกับดูแลรองรับการปรับโครงสร้างคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับแก้ไขใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสทุนโลกที่เปลี่ยนแปลงไป 
          "แนวโน้มตลาดทุนโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และการเคลื่อนย้ายเงินทุนข้ามพรมแดนรวดเร็วและมีมากขึ้น ก.ล.ต.จึงได้เสนอแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯเพื่อเตรียมตลาดทุนไทยให้พร้อมรับการแข่งขันที่จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ" นายธีระชัย กล่าว 
          ดังนั้น ก.ล.ต.มีแผนเข้าร่วมลงนามระดับพหุภาคีขององค์กร ก.ล.ต.นานาชาติ (IOSCO) กับ ก.ล.ต.ประเทศต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการกระทำผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ฯ และ หลักเกณฑ์การกำกับดูแล ๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนที่สามารถนำสินค้าในตลาดหลักทรัพย์กลุ่มประเทศดังกล่าว  
          รวมทั้ง การผลักดันให้ผู้ประกอบการเตรียมพร้อมรับการแข่งขันการเปิดเสรีธุรกิจหลักทรัพย์ เปิดให้เสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ในอนาคต โดยมีการออกเกณฑ์ให้สามารถขออนุญาตทำธุรกิจได้อย่างครบวงจร ฉะนั้น ก.ล.ต.พร้อมผ่อนคลายกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคและต้นทุนการทำธุรกิจ และเน้นการกำกับดูแลแบบการใช้การเปิดเผยข้อมูล แทนการใช้ดุลยพินิจของก.ล.ต.
*พร้อมลงสมัครนั่งเก้าอี้เลขาฯ
          นายธีระชัย กล่าวว่า ตัวเขาเองจะหมดวาระในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.ล.ต. ในวันที่ 27 ธ.ค. 50 และ นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ต่ออายุ หรือตั้งผู้รักษาการแทน ก็จะทราบภายใน 27 ธ.ค.นี้ 
          แต่หาก พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯฉบับแก้ไข ผ่านสภาแล้ว และมีผลบังคับใช้ นายธีระชัย ก็พร้อมจะลงสมัครคัดเลือกเป็นเลขาธิกา ก.ล.ต. ต่ออีกวาระหนึ่ง ทั้งนี้ ในกฎมมายฉบับแก้ไขยังคงให้เลขาธิการ ก.ล.ต.ดำรงตำแหน่งได้คราวละ 4 ปี และ 2 สมัยติดต่อกันได้
          "เรื่องต่ออายุขึ้นอยู่กับ รัฐมนตรีคลังคนปัจจุบัน  ผมยินดีที่จะทำหน้าที่ต่อ และถ้ากฎหมายผ่าน ก็จะเปลี่ยนบอร์ด ก.ล.ต.ใหม่ ผมก็จะลงสมัครด้วย" นายธีระชัย กล่าว 
*ช่วง 4 ปี หนักใจเรื่องการซื้อขายหุ้นกลุ่ม SHIN
          นายธีระชัย กล่าวว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาที่ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ ก.ล.ต. สิ่งที่หนักใจ กรณีการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นกลุ่มบมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) เพราะถูกมองว่ามีความลำเอียง แต่ก็ยอมรับว่าเรื่องนี้ได้รับความสนใจสูง 
          "หนักใจที่สุดในช่วงเป็นเลขาฯก.ล.ต.ก็เป็นเรื่อง SHIN เลขาฯไม่สามารถเข้าไปแทรกแซง ผมดำเนินการเรื่องนี้ด้วยความเป็นธรรม ขอยืนยันว่าไม่มีการลำเอียงแน่นอน" นายธีระชัยกล่าว
          สำหรับผลงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา นายธีระชัย กล่าวว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ได้แก่ การเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ตลาดทุนไทย ด้วยการจัดตั้งทีมงานขึ้นเพื่อทำการวิเคราะห์และตรวจสอบงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนต่างๆเป็นประจำ  จากการตรวจสอบ ก.ล.ต.พบประเด็นผิดปกติที่นำไปสู่การสั่งแก้ไขงบการเงินในช่วง 4 ปี 29 บริษัท รวมทั้งพบการกระทำทุจริตจนกล่าวโทษดำเนินคดีได้หลายคดี เช่น คดีบมจ.ทีพีไอโพลีน (TPIPL) 
          นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการเพิ่มบทบาทตลาดทุนไทยในเวทีต่างประเทศ ได้แก่ ผลักดันให้ไทยได้รับการยอมรับจากเวที ก.ล.ต.โลก โดยนายธีระชัยได้รับเลือกเป็นประธานในระดับ Asia Pacific Reginal Committee 2 สมัยติดกัน  รวมถึง เพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุน โดยจากนโยบายให้ผุ้ลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ ผ่านกองทุนรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 15 เท่าจาก 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 49 เพิ่มเป็น 6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบัน (ต.ค. 50) 
          และผลักดันการออกกฎหมายเพื่อคุ้มคองผู้ลงทุน ยกระดับ CG  และอำนวยความสะดวในการทำธุรกรรมในตลาดทุน  ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้เปรียบเทียบปรับรวม 347 ราย เป็นเงินค่าปรับ 197 ล้านบาท และมีการกล่าวโทษ 20 คดี ที่มีผู้กระทำผิด 80 ราย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องโบรกเกอร์เถื่อน  หรือ กรรมการทุจริต