นายชาญ เธียรกาญจนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รักษาการกรรมการผู้จัดการ บมจ.บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าภาพรวมผลประกอบการในปี 61 รายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย 10-15% จากปีก่อนที่ 6,043.10 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่ายังมีกล้องรุ่นใหม่ทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดยังคงมีความคึกคักได้ต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นช่วงฤดูกาลของธุรกิจ ซึ่งแบรนด์กล้องจะออกโปรโมชั่นสินค้ารุ่นใหม่ ๆ มากขึ้นช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ และจะมีการจัดกิจกรรม PHOTO FAIR มาช่วยสนับสนุนยอดขายอีกด้วย
ขณะที่บริษัทยังคงวางแผนในการเปิดสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ตามการขยายตัวของห้างสรรพสินค้า ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งแผนการเปิดสาขา BIG Camera ปีนี้ได้เปิดสาขาที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ 5 สาขา และมีสาขารวมอยู่ที่ประมาณ 220 สาขา
ด้านธุรกิจการพิมพ์ (Printing) ซึ่งดำเนินงานภายใต้ชื่อ Wonder Photo Shop นั้น ที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 8 สาขา สามารถที่จะสร้างการรับรู้ในกลุ่มสินค้าภาพพิมพ์ได้อย่างต่อเนื่อง และธุรกิจ BIG Mobile ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างหาโอกาสเข้ารับงานบริหารร้าน AIS Shop เพิ่มเติม ซึ่งในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้เปิดให้บริการ Telewiz by AIS เพิ่มอีก 2 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนจะขยายการลงทุน โดยจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ คือ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า โฮลดิ้ง จำกัด ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนการขยายการลงทุนของบริษัทในอนาคต และบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100%
นายชาญ กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังน่าจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับผลดีจากความต้องการกล้องรุ่นใหม่ และกลยุทธ์เน้นเจาะตลาดกล้องรุ่นใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส 3/61 เป็นต้นไป ซึ่งสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นและกำไรมีแนวโน้มที่ดีกว่าเดิม
"ครึ่งปีแรกภาพรวมตลาดกล้องยังไม่ได้ฟื้นตัวดีมากจากกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ได้รับการกระตุ้นจากกล้องรุ่นใหม่ที่ทยอยออกตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับกลยุทธ์ของบริษัทฯจึงทำให้ยังสามารถเพิ่มยอดขายและเติบโตได้ตามเป้าหมายได้ โดยเซ็กเมนต์กล้อง Mirrorless ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดอยู่"
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 61 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,104 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 324 ล้านบาท ลดลงจากงวด 6 เดือนแรกของปี 60 ที่มีกำไร 394.48 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/61 รายได้รวมอยู่ที่ 1,462 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 114 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 155.64 ล้านบาท