นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง (FTE) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเข้าประมูลโครงการภาครัฐ-เอกชนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิ.ย.61 อยู่ที่ประมาณ 380 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 130 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 250 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 60% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2562
ธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยงานภาคเอกชนมีสัญญาณที่ดีจากการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่เร่งส่งมอบงานในช่วงไตรมาส 3 และ 4 นี้ ขณะที่งานโครงการภาครัฐยังคงมีความเสี่ยงเรื่องความล่าช้า
อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการต่างๆ จะทยอยเปิดให้ยื่นประมูลได้ช่วงไตรมาส 3 ด้านสาขาระยองที่เปิดดำเนินการเมื่อเดือนมิ.ย.61 บริษัทมีการติดต่อลูกค้าโซนภาคตะวันออกมากขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงความปลอดภัย และมีแผนปรับปรุง ซ่อมบำรุง ระบบดับเพลิงและระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้มากขึ้น ขณะนี้มีการเจรจาเพื่อเข้ารับงานซ่อมบำรุงระบบดับเพลิงแล้ว คาดว่าจะทราบผลเร็วๆนี้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 254.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 216.06 ล้านบาท จำนวน 38.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.93% และมีกำไรสุทธิ 41.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.23 ล้านบาท จำนวน 14.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 53.65%
ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 478.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 452.68 ล้านบาท จำนวน 26.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.80% และมีกำไรสุทธิ 58.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 54.45 ล้านบาท จำนวน 4.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.36%
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากงานจัดจำหน่ายที่มีปริมาณสินค้า และฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงรับรู้งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงของโครงการหลายแห่ง อาทิ สถานีไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) Data Center รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และทยอยรับรู้รายได้จากโครงการขนาดใหญ่ส่งมอบงานล่าช้าตั้งแต่ช่วงปลายปี 60
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.09 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 98.75% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดรวมทั้งสิ้น 54 ล้านบาท โดยจะทำการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date) ในวันที่ 24 ส.ค. 61 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 7 ก.ย. 61