WHA เผยกำไรสุทธิ Q2/61 ลดลง 69% รับพิษค่าเงิน, H2/61 สรุปลูกค้าซื้อที่ดินนิคมฯหลังเจรจาอยู่ 4-5 ราย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 14, 2018 11:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 303 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 972 ล้านบาท หรือลดลง 69% หลังมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทและกิจการร่วมค้าลดลง 41% มาที่ 2,023 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/61 บริษัทได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเพียงผลกระทบทางบัญชีและไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดหรือผลประกอบการที่แท้จริงของบริษัท รวมทั้งมีจำนวนที่ดินที่โอนน้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่หากพิจารณาจากกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจะลดลงมาที่ 523.8 ล้านบาท หรือลดลง 42% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ส่วนช่วง 6 เดือนแรกของปี 61 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,470.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติจะเพิ่มขึ้น 312.4 ล้านบาท หรือเป็นการเพิ่มขึ้น 38.3% มาที่ 1,128.2 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทและกิจการร่วมค้า อยู่ที่ 5,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับสาเหตุการเติบโตของผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกปีนี้ จากจากการรับรู้รายได้การขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 1,590 ล้านบาทในช่วงต้นปี รวมทั้งปริมาณการขายและให้บริการน้ำที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้น้ำ ของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม และการให้บริการโรงไฟฟ้า SPP ที่เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/60 เป็นต้นมา จำนวน 5 โรง ส่งผลบริษัทรับรู้รายได้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น กำลังการผลิตติดตั้งรวมของโรงไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯอยู่ที่ 510.5 เมกะวัตต์ ซึ่งยังไม่รวมการให้บริการ Solar Rooftop ที่อยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้า จำนวน 7-8 ราย คิดเป็นประมาณ 5-6 เมกะวัตต์ ทำให้สิ้นปีการให้บริการ Solar Rooftop ทั้งหมดคาดจะอยู่ประมาณ 10 เมกะวัตต์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 61 ภาพรวมธุรกิจมีการปรับตัวคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจพัฒนาโลจิสติกส์ เนื่องจากพื้นที่การให้บริการของบริษัทส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทในการมุ่งมั่นส่งเสริมพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) ของประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงลูกค้าอุตสาหกรรมใหม่ที่ภาครัฐให้การสนับสนุน ได้แก่ อุตสาหกรรมการบิน และอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่

จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ส่งผลบวกให้มีการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งในพื้นที่ของ WHA Group ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีการเจรจาลูกค้ารายใหญ่ที่สนใจซื้อพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท จำนวน 4-5 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนได้ในครึ่งหลังปี 2561 นี้ทั้งหมด จึงมั่นใจว่ายอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แต่ต้นปี

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเตรียมเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหญ่ในส่วนของคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit อีก 2 ราย ซึ่งคิดเป็นพื้นที่กว่า 170,000 ตารางเมตร ส่งผลให้ยอดการการเช่าพื้นที่คลังสินค้า และเพิ่มขึ้นจากอย่างต่อเนื่อง จากครึ่งปีแรกที่มียอดการเช่าคลังสินค้า และโรงงานแบบ Built-to-Suit และReady-built ประมาณ 60,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4/61 บริษัทฯเตรียมแผนการขายทรัพย์สินของบริษัทฯ ให้กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (กองทรัสต์ HREIT) คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายและสามารถรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ