นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 40% ไป แตะ 2 พันล้านบาทในปี 64 จากทิศทางแนวโน้มงานในมือ (backlog) เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีอยู่ราว 2,876 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 600-700 ล้านบาท ขณะที่บริษัทเตรียมพร้อมเข้าประมูลโครงการในอนาคตเพื่อเสริม backlog ให้เติบโต
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไม่ต่ำกว่า 2 digit จากการรับรู้รายได้ประจำมากขึ้น โดยเฉพาะบริการโครงข่ายในโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบเฟส 1 เต็มปีที่คาดว่าจะมีจำนวน 200 ล้านบาท/ปี ซึ่งปีนี้จะเริ่มรับรู้เข้ามาตั้งแต่เดือน ก.ย.61 ประกอบกับบริษัทมีแผนการควบคุมค่าใช้จ่าย จากปัจจุบันบริษัทมีพนักงานรวมราว 700 คน ซึ่งเพียงพอสำหรับการดำเนินงานในระยะ 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ บริษัทยังติดตามการประมูลโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบเฟส 2 จำนวน 8 สัญญา มูลค่ารวมราว 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ในช่วงเดือน ก.ย.61 และรู้ผลการประมูลในเดือน ต.ค.61 ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะได้งานราว 1-2 สัญญาในพื้นที่ภาคกลางหรือภาคใต้ มูลค่า 3-4 พันล้านบาท หรือ 15% ของมูลค่ารวมโครงการ ในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้
นายณัฐนัย กล่าวอีกว่า บริษัทได้มีการชะลอแผนการระดมทุนผ่านการเสนอขายเหรียญดิจิทัล (ICO) เนื่องจากความล่าช้าและความไม่ชัดเจนของการออกหลักเกณฑ์จากภาครัฐ ทำให้การออก ICO ปัจจุบันมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง อย่างไรก็ดีบริษัทได้วางตัวเป็น "deal connector" แทนการเสนอขาย ICO ซึ่งเป็นอีกช่องทางสร้างรายได้จากบริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีอยู่
นายณัฐนัย กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังในปี 61 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทตั้งเป้าเติบรายได้ทั้งปีเติบโตที่ 40% ปัจจุบันบริษัทมีรายได้ครึ่งปีแรกเข้ามาแล้วกว่า 859 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 60% ของเป้าหมาย 1,400 ล้านบาทที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี ขณะเดียวกัน คาดว่ากำไรสุทธิจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายได้ อีกทั้งคาดการณ์ว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นในงานการให้บริการโครงข่ายเพิ่มขึ้นแตะ 40% ได้ภายใน 5 ปี
เนื่องจากการบริหารจัดการที่ดีในการประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และการรุกการให้บริการในทุกธุรกิจ สนับสนุนให้ผลงานปีนี้มีการเติบโตสูงขึ้นตามแผนงานที่วางไว้ โดยปัจจุบัน backlog กว่า 2,800 ล้านบาทรอการรับรู้ในอนาคต เป็นงานบริการโครงข่าย 2,011 ล้านบาท งานให้บริการติดตั้งโครงข่าย 726 ล้านบาท และงานให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ 139 ล้านบาท
สำหรับผลงานไตรมาส 2/61 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 286 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 138% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 206 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 33.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ รายได้มาจากงานบริการโครงข่าย 155.46 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 31.57% ของรายได้รวม เทียบกับไตรมาส 2/60 ที่มีรายได้ 129.03 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัด รวมทั้งเพิ่มเส้นทางเชื่อมต่อไปยังลูกค้า ในขณะเดียวกันโครงข่ายของบริษัทเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจด้วยคุณภาพของการให้บริการ ที่ SLA 99.9952% จึงทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ คิดเป็นสัดส่วน 4.50% ของรายได้รวม หรือมีรายได้จำนวน 22.08 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริการติดตั้งวงจรโครงข่ายที่โตถึง 256.37 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตถึง 450.66% จากติดตั้งงานโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งงานงวดที่ 2 แล้วเสร็จไปในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และจะส่งงานงวดสุดท้ายภายในเดือน ก.ย.นี้