นางเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทย เทอร์มินอล (PORT) เปิดเผยว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 15% จากปีก่อน หลังจากบริษัทย่อย คือ บริษัท บางกอก บาร์จ เทอร์มินอล จำกัด (BBT) ได้เซ็นสัญญาร่วมกับสายการเดินเรือ Ocean network express (ONE line) ซึ่งเป็นสายการเดินเรือใหญ่ระดับโลก ทำให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง โดยล่าสุด BBT เริ่มมีกำไรแล้วในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้บริษัท บางกอก คอนเทนเนอร์ เดโป เซอร์วิส จำกัด (BCDS) ซึ่งเป็นบริทย่อยอีกแห่งหนึ่งได้เริ่มเปิดให้บริการเฟส 1 ไปแล้วในเดือน เม.ย.ซึ่งมีปริมาณการใช้บริการอย่างล้นหลาม และกำลังอยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างโครงการเฟส 2 เพื่อทันความต้องการใช้บริการของลูกค้า ซึ่งเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 4/61 นี้จะทำให้รองรับปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ขณะเดียวกัน PORT ยังได้ลงทุนซื้อเครนขนาดใหญ่เพิ่ม 2 ตัว ทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากขึ้น 30% และยังให้บริการ Mobile X-Ray ที่ท่าเรือสหไทย ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช่จ่ายให้แก่ลูกค้าของบริษัทอย่างสูง ทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการไปอีกขั้น โดย PORT เป็นท่าเรือเอกชนเพียงรายเดียวที่มีบริการ "Mobile X-Ray"
อนึ่ง PORT เคยระบุก่อนหน้านี้ว่า ในช่วงไตรมาส 3/61 บริษัทอาจพิจารณาปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปี 61 จากเดิมคาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หลังผลประกอบการในไตรมาส 2/61 มีแนวโน้มที่แข็งแกร่งตามทิศทางการนำเข้าและส่งออกของประเทศ
ทั้งนี้ PORT ได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2/61 มีรายได้รวม 369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากจากกำไรสุทธิ 6 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
"สำหรับงวดครึ่งปีแรก บริษัทมีรายได้รวม 743 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท โดยบริษัทมีตู้คอนเทนเนอร์ที่ให้บริการในส่วนงานท่าเรือเพิ่มขึ้น 40.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน"นางเสาวคุณ กล่าว